วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2561

สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 15 มี.ค. 2561

สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ต่างชาติเตือนไทยเร่งสปีด โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อภูมิภาค
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมกล่าวในงานสัมมนา "โก ไทยแลนด์ : ลงทุนเพื่ออนาคต" ที่ศูนย์การประชุมสิริกิติ์ ว่าศักยภาพของประเทศไทยที่จะก้าวไปสู่การเติบโตที่ก้าวกระโดด ท่ามกลางความผันผวนจากนอกประเทศจะต้องปรับเปลี่ยนและสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งตามที่รัฐบาลดำเนินการมาตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) และเส้นทางรถไฟความเร็วสูง การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม การสร้างความสมดุลให้เศรษฐกิจในประเทศ โดยหันมาเน้นเศรษฐกิจท้องถิ่น(โลคอล อีโคโนมี่) ให้มากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาภาคการท่องเที่ยว ภาคบริการ และด้านการเกษตรด้วย
TAPMA วาง 6 ยุทธศาสตร์ เพิ่มดีกรีอุตฯชิ้นส่วนยานยนต์ไทย
นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (Thai Auto - Parts Manufacturers Association) หรือ TAPMA เปิดเผยว่าในปี 2560 ชิ้นส่วนยานยนต์ไทยสร้างรายได้ให้กับประเทศด้วยการส่งออกถึง 19,844.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15.50% เมื่อเทียบกับปี 2559 ด้านการนำเข้า มีมูลค่า 16,623.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.15% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยการนำเข้า-ส่งออกทั้งปี 2560 นั้นมีมูลค่า เกินดุลถึง 3,221.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เอ็มเอฟซีกางแผนปี'61 ปั้นทรัพย์ในสต๊อกโต 14.3% ขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)เอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า ในปี 2560 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการของบริษัท หรือ AUM มีมูลค่า 454,900 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.9% จากปี 2559 ที่มีมูลค่า 425,600 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวม 264,100 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 10% จากปี 2559 ที่มีมูลค่า 238,800 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 155,100 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 0.6% จากปี 2559 ที่มีมูลค่า 154,300 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 35,100 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 9.4% จากปี 2559 ที่มีมูลค่า 32,000 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 7 ของอุตสาหกรรม คิดเป็น 6.5%
'สมคิด'สั่งกรุงไทยวางระบบ รองรับนโยบายรัฐสวัสดิการ
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายผู้บริหารธนาคารกรุงไทย โดยระบุว่าเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลหลายด้านในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังจากช่วยวางระบบจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย นับว่าเป็นการส่งเงินเข้ากระเป๋าโดยตรงให้กับชาวบ้าน ลดปัญหาเงินรั่วไหลระหว่างทางก่อนถึงมือผู้ควรได้รับการช่วยเหลือซึ่งมีปัญหาหลายหน่วยงาน นอกจากนี้อนาคตยังต้องช่วยเหลือสวัสดิการอีกหลายด้านให้กับประชาชนดังนั้นจึงต้องอาศัยธนาคารกรุงไทยช่วยดูแลระบบ โดยเฉพาะการดูแลสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งมีสัดส่วน 1/4 ของประชากรไทย ซึ่งกำลังเตรียมระบบรองรับการช่วยเหลืออีกหลายด้านผ่านธนาคารกรุงไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น