วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 ก.ค. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
เกาะติดจีนฮุบคอนโดฯไทย ธปท.หวั่นเททิ้งแก้ไม่ทัน 
น.ส.มณีรัตน์ ก้องเสียง เศรษฐกร สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในบทความเรื่องอุปสงค์ชาวต่างชาติในตลาดอาคารชุดไทย ว่า ขณะนี้มีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนเข้าซื้ออาคารชุดของไทยจำนวนมาก เพื่ออยู่อาศัยและปล่อยเช่า ทำให้ต้องติดตามแผนการทำธุรกิจของผู้ประกอบการอาคารชุด ว่าจะสร้างอาคารชุดเพื่อเน้นขายให้ลูกค้าชาวต่างชาติมากเกินไปหรือไม่ เนื่องจากหากลูกค้าต่างชาติเกิดปัญหา เช่น เศรษฐกิจของประเทศ หรือภาครัฐทั้งฝั่งไทยและฝั่งชาวต่างชาติ ได้ออกมาตรการเกี่ยวกับการนำเงินเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทยอาจเกิดอุปสรรคและความเสี่ยงตามมาได้ ส่วนการซื้อเพื่อเก็งกำไรมีน้อย เพราะผู้ประกอบการมีมาตรการป้องกันการเก็งกำไรชาวต่างชาติด้านที่อยู่อาศัย
ร้านทองบุกขายออนไลน์ 
นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาพรวมการประกอบธุรกิจร้านทองคำในเยาวราช พบว่าแต่ละร้านมีการเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์และแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อทำการตลาดและส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับยุคดิจิตอลที่ช่วยให้ผู้ที่สนใจเลือกซื้อทองคำได้ง่ายและสะดวก เพราะไม่ต้องเดินทางมาที่หน้าร้าน รอรับของที่จัดส่งถึงที่ เพียงทำตามขั้นตอนที่แต่ละร้านกำหนด ทั้งการเลือกสินค้า, โอนเงิน และรอรับของ 1-3 วันขึ้นอยู่กับระยะทาง ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่นำมาขายผ่านช่องทางนี้ มีทั้งทองรูปพรรณ 1-2 สลึง และทองคำแท่ง 1 กรัม และ 1 บาท เป็นต้น
เดินสายญี่ปุ่นขอเสียงหนุน ร่วมวงซีพีทีพี-ดึงลงทุนเพิ่ม 
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 17-21 ก.ค.นี้ ตนและคณะเตรียมเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อเป็นหัวหน้าคณะในการประชุมคณะกรรมาธิการระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น หรือเอชแอลเจซี ครั้งที่ 4 ซึ่งเน้นเรื่องความร่วมมือเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่นในเชิงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยมีกรอบการหารือที่สำคัญใน 4 เรื่อง คือ การหารือกับญี่ปุ่นเกี่ยวกับข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือซีพีทีพีพี ไทยจะขอเป็นสมาชิกในสิ้นปีนี้ จึงต้องขอเสียงสนับสนุนจากญี่ปุ่น ที่เป็นชาติสมาชิกสำคัญ และขอให้ช่วยประสานงานและขอเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิกอีก 10 ชาติ ให้ไทยเข้าเป็นสมาชิกด้วย
แห่ขนน้ำหอม-เครื่องสำอางพุ่ง 
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้รายงานสถานการณ์การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 61 คือ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 60-มี.ค.61 โดยพบว่า สินค้าฟุ่มเฟือยที่ได้รับความนิยมสูงและยังมีแนวโน้มได้รับความนิยมนำเข้าอย่างต่อเนื่อง คือ สินค้ากลุ่มน้ำหอมและเครื่องสำอาง กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง นาฬิกาและอุปกรณ์ และสุราต่างประเทศ ซึ่งสินค้ากลุ่มน้ำหอมและเครื่องสำอาง เป็นสินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุดติดต่อกันแล้ว 3 ไตรมาส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น