สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ตีตรามอก.เครื่องฉีดน้ำ
คุมมาตรฐานอุ้มผู้บริโภค
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ให้สมอ.เร่งประกาศให้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเป็นสินค้าควบคุม หลังจากมีผู้ใช้สินค้าดังกล่าวถูกไฟดูดถึงแก่ความตายเมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และเป็นสินค้ายอดนิยมที่มีการซื้อขายกันเป็นจำนวนมาก เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าต่อไป หลังจากประกาศเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับแล้ว ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าวจะต้องขออนุญาตจาก สมอ. เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าก่อน หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะไม่สามารถนำมาจำหน่ายในท้องตลาดได้
เฮ!บิลค่าน้ำค่าไฟขอเงินกู้ได้
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกหนังสือเวียน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ กลุ่มที่ไม่สามารถพิสูจน์รายได้ และกลุ่มที่ไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน ให้สามารถใช้ข้อมูลทางเลือก หรืออัลเทอร์เนทีฟ ดาต้า เป็นข้อมูลประกอบในการขอสินเชื่อ เพิ่มเติมจากเดิมที่ใช้ข้อมูลด้านรายได้ เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก
พร้อมจ่ายค่าสินค้า 30 วัน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่เห็นชอบข้อเสนอธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ที่เสนอให้กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันและการค้า กำหนดเงื่อนไขระยะเวลาการชำระสินเชื่อการค้าในประเทศไทย หรือเครดิต เทอม ให้อยู่ในระดับมาตรฐานที่เหมาะสม 30-45 วัน ว่า เอกชนรายใหญ่หลาย ๆ ราย ได้แสดงความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยขณะนี้มีทั้ง เครือสหพัฒน์ เครือ บมจ.ปตท. บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) พร้อมดำเนินการจ่ายเงินให้ลูกค้าที่เป็นเอสเอ็มอีภายในเวลา 30 วัน จากเดิมที่จ่ายได้ภายใน 60-120 วัน เพื่อช่วยให้เสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีมากขึ้น
เผยไม้ยืนต้นค้ำเงินกู้ ทะลุแล้ว 1.11 แสนต้น
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งกระตุ้นให้เกษตรกรและประชาชนปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเองและชุมชนมากขึ้น เพื่อนำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ สำหรับขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมถึงสถาบันการเงินอื่น ๆ หลังจากที่ผ่านมามีผู้ขอนำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 111,365 ต้น มูลค่ารวมกว่า 132 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น