สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า
กกร.ห่วงตกงานพุ่งวอนรัฐอัดเงินฟื้นศก.ฐานรากด่วน!
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุม กกร. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ปี 2563 โดยมองว่า จีดีพีอาจหดตัวในกรอบ 3-5% และการส่งออกอาจหดตัว 5-10% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าอยู่ในกรอบ 0.0% ถึง -1.5% โดยเศรษฐกิจไทยเดือนเมษายน 2563 ล้วนหดตัวทั้งการส่งออก การผลิต การบริโภคและการลงทุน มีเพียงการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัว เหตุผลหลักมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ทั้งในประเทศและหลายประเทศของโลกซึ่งเผชิญการระบาดที่รุนแรงของไวรัสโควิด-19
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุม กกร. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ปี 2563 โดยมองว่า จีดีพีอาจหดตัวในกรอบ 3-5% และการส่งออกอาจหดตัว 5-10% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าอยู่ในกรอบ 0.0% ถึง -1.5% โดยเศรษฐกิจไทยเดือนเมษายน 2563 ล้วนหดตัวทั้งการส่งออก การผลิต การบริโภคและการลงทุน มีเพียงการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัว เหตุผลหลักมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ทั้งในประเทศและหลายประเทศของโลกซึ่งเผชิญการระบาดที่รุนแรงของไวรัสโควิด-19
เอพีมั่นใจผลงานปีนี้เข้าเป้าหลังยอดขาย5เดือนทะลุ1.23หมื่นล้าน
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายในปี 2563 นี้ได้ตามเป้า 3.35 หมื่นล้านบาท หลังจากช่วง 5 เดือนแรก ปี 2563 ทำยอดขาย ได้แล้ว 1.23 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของเป้าทั้งปี 2563 ซึ่งยังไม่รวมยอดขายในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2563 ที่มีเข้ามาแล้ว 1.1 พันล้านบาท
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายในปี 2563 นี้ได้ตามเป้า 3.35 หมื่นล้านบาท หลังจากช่วง 5 เดือนแรก ปี 2563 ทำยอดขาย ได้แล้ว 1.23 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของเป้าทั้งปี 2563 ซึ่งยังไม่รวมยอดขายในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2563 ที่มีเข้ามาแล้ว 1.1 พันล้านบาท
กรุงไทยแนะเกาะกระแส'GDH'เพิ่มโอกาสทำเงินยุค'New Normal'
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจหรือจีดีพีของไทยในปี 2563 จะหดตัว 8.8% และหากโควิด-19 กลับมาระบาดระลอก 2 ทำให้ต้องปิดเมืองอีกครั้ง คาดว่า จีดีพี จะหดตัวรุนแรงถึง 12% ในช่วง 5 เดือนแรก ที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงไทยหดตัวอย่างหนักจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและการปิดเมือง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยลดลง 60% และยอดจองที่อยู่อาศัยลดลงจาก 36% ในช่วงเดียวกัน ของปีที่แล้ว เหลือเพียง 14% โควิด-19 ยังทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไปสู่ New Normal และผลการสำรวจ CEO จากบริษัททั่วโลก จำนวนมากเห็นว่าเศรษฐกิจคงกลับมาได้ช้าๆ อาจใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี ในการกลับมาสู่จุดเดิม "วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกมากขึ้น ขณะที่ โควิด-19 ก่อให้เกิดกระแสทวนโลกาภิวัตน์ที่ทั่วโลก ต่างหันว่าพึ่งพิงเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น รัฐบาลหลายประเทศสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตกลับประเทศและใช้มาตรการทางภาษีปกป้องบริษัทในประเทศมากขึ้น ส่งผลกระทบด้านลบกับกลุ่มธุรกิจที่พึ่งพิงการส่งออกในระดับสูง เช่น ธุรกิจยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ส่วนอีกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากใน New Normal คือ กลุ่มที่พึ่งพาการก่อหนี้ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธุรกิจใน 2 กลุ่มนี้ มียอดขายรวมกันถึง 37% ของมูลค่ายอดขายในอุตสาหกรรมไทย" นายพชรพจน์ กล่าว
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจหรือจีดีพีของไทยในปี 2563 จะหดตัว 8.8% และหากโควิด-19 กลับมาระบาดระลอก 2 ทำให้ต้องปิดเมืองอีกครั้ง คาดว่า จีดีพี จะหดตัวรุนแรงถึง 12% ในช่วง 5 เดือนแรก ที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงไทยหดตัวอย่างหนักจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและการปิดเมือง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยลดลง 60% และยอดจองที่อยู่อาศัยลดลงจาก 36% ในช่วงเดียวกัน ของปีที่แล้ว เหลือเพียง 14% โควิด-19 ยังทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไปสู่ New Normal และผลการสำรวจ CEO จากบริษัททั่วโลก จำนวนมากเห็นว่าเศรษฐกิจคงกลับมาได้ช้าๆ อาจใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี ในการกลับมาสู่จุดเดิม "วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกมากขึ้น ขณะที่ โควิด-19 ก่อให้เกิดกระแสทวนโลกาภิวัตน์ที่ทั่วโลก ต่างหันว่าพึ่งพิงเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น รัฐบาลหลายประเทศสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตกลับประเทศและใช้มาตรการทางภาษีปกป้องบริษัทในประเทศมากขึ้น ส่งผลกระทบด้านลบกับกลุ่มธุรกิจที่พึ่งพิงการส่งออกในระดับสูง เช่น ธุรกิจยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ส่วนอีกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากใน New Normal คือ กลุ่มที่พึ่งพาการก่อหนี้ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธุรกิจใน 2 กลุ่มนี้ มียอดขายรวมกันถึง 37% ของมูลค่ายอดขายในอุตสาหกรรมไทย" นายพชรพจน์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น