สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
แนะซื้อไฟฟ้าเขมรป้อนภาคใต้ ต่อสายเกาะกงแทนผุดถ่านหิน ชี้รัฐบาลกัมพูชาชงแผนไทยแล้ว
'มนูญ' ชี้ภายใน 5 ปีภาคใต้จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มรับเศรษฐกิจบูม ยันระบบไฟฟ้าภาคใต้มีความเสี่ยง ต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพิ่ม ด้านเอกชนเสนอเซ็นซื้อจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเกาะกง เชื่อมสายไฟ 1 พัน กม.ป้อนลงใต้ ชี้รัฐบาลกัมพูชาเสนอแผนให้ไทยพิจารณาแล้ว
'มนูญ' ชี้ภายใน 5 ปีภาคใต้จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มรับเศรษฐกิจบูม ยันระบบไฟฟ้าภาคใต้มีความเสี่ยง ต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพิ่ม ด้านเอกชนเสนอเซ็นซื้อจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเกาะกง เชื่อมสายไฟ 1 พัน กม.ป้อนลงใต้ ชี้รัฐบาลกัมพูชาเสนอแผนให้ไทยพิจารณาแล้ว
พณ.เชื่อส่งออกทั้งปีเข้าเป้า ลุยตลาดนำผลิตเอื้อเกษตร
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวว่า การส่งออกเป็นเครื่องจักรที่ใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2561 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 6% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอผลสรุปจากที่ประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์นี้ก่อน แต่เชื่อมั่นว่าเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไม่น่าจะโตต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายหลัก 3 เรื่อง ในการสนับสนุนการส่งออก คือ 1.เพิ่มเสถียรภาพในการส่งออก 2.สอดรับด้านนโยบายและทิศทางของกระทรวงอุตสาหกรรม และ 3.จะมองการเติบโตของการส่งออก โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเอสเอ็มอีมากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวว่า การส่งออกเป็นเครื่องจักรที่ใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2561 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 6% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอผลสรุปจากที่ประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์นี้ก่อน แต่เชื่อมั่นว่าเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไม่น่าจะโตต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายหลัก 3 เรื่อง ในการสนับสนุนการส่งออก คือ 1.เพิ่มเสถียรภาพในการส่งออก 2.สอดรับด้านนโยบายและทิศทางของกระทรวงอุตสาหกรรม และ 3.จะมองการเติบโตของการส่งออก โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเอสเอ็มอีมากขึ้น
ลั่นงบขาดดุล5แสนล.ไม่เสี่ยง คลังมั่นใจฐานะการเงินแกร่ง หนี้ต่อจีดีพีสัดส่วนเพียง42%
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา "ไทยแลนด์เทคออฟ 2018" ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้นเริ่มเทกออฟ ลักษณะของเศรษฐกิจแบบทุนนิยมการเติบโตจำเป็นต้องสร้างความมั่งคั่ง และยั่งยืนให้ประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะที่ดูแลเศรษฐกิจในภาพรวมมองว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายแบบผ่อนคลาย โดยในปีงบประมาณ 2561 จัดทำงบประจำปีขาดดุลไปแล้ว 4.5 แสนล้านบาท และกำลังทำงบกลางปีอีก 1.5 แสนล้านบาท รวมเป็นงบขาดดุล 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งการทำงบขาดดุลในระดับดังกล่าวยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยง ดูได้จากฐานะทางการเงินดีมาก มีเงินสำรองระหว่างประเทศถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หนี้ต่อจีดีพีมีสัดส่วนเพียง 42% ดุลการค้าเป็นบวก
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา "ไทยแลนด์เทคออฟ 2018" ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้นเริ่มเทกออฟ ลักษณะของเศรษฐกิจแบบทุนนิยมการเติบโตจำเป็นต้องสร้างความมั่งคั่ง และยั่งยืนให้ประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะที่ดูแลเศรษฐกิจในภาพรวมมองว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายแบบผ่อนคลาย โดยในปีงบประมาณ 2561 จัดทำงบประจำปีขาดดุลไปแล้ว 4.5 แสนล้านบาท และกำลังทำงบกลางปีอีก 1.5 แสนล้านบาท รวมเป็นงบขาดดุล 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งการทำงบขาดดุลในระดับดังกล่าวยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยง ดูได้จากฐานะทางการเงินดีมาก มีเงินสำรองระหว่างประเทศถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หนี้ต่อจีดีพีมีสัดส่วนเพียง 42% ดุลการค้าเป็นบวก
'เสนา'เล็งลงทุนอีอีซี เดินหน้าสต๊อกที่ดิน
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อจำนวนมาก แต่การเข้าไปลงทุนนั้นจะต้องรอให้โครงการมีความชัดเจนก่อน โดยขณะนี้ กำลังเจรจาซื้อที่ดินหากโครงการมีความชัดเจนก็สามารถเดินหน้าได้ แต่ในระหว่างนี้ก็จะนำที่ดินเดิมที่มีอยู่แล้วออกมาพัฒนาก่อนทั้งที่ระยองและชลบุรี
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อจำนวนมาก แต่การเข้าไปลงทุนนั้นจะต้องรอให้โครงการมีความชัดเจนก่อน โดยขณะนี้ กำลังเจรจาซื้อที่ดินหากโครงการมีความชัดเจนก็สามารถเดินหน้าได้ แต่ในระหว่างนี้ก็จะนำที่ดินเดิมที่มีอยู่แล้วออกมาพัฒนาก่อนทั้งที่ระยองและชลบุรี
แบงก์จูงใจทำบัญชีเดียว ปล่อยกู้เอสเอ็มอีดบ.ต่ำ
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ 5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์ จะเริ่มนำร่องให้สินเชื่อเพื่อจูงใจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทำบัญชีเดียว โดยจะดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม 2562-31 ธันวาคม 2563 รวม 2 ปี โดยเอสเอ็มอีที่ใช้บัญชีเล่มเดียวขอสินเชื่อในช่วงระยะเวลา ดังกล่าวนี้ จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 5% ระยะเวลา 2 ปี ส่วนวงเงินสินเชื่อที่ลูกค้าแต่ละรายจะได้รับขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะได้ทั้งขอสินเชื่อใหม่และรีไฟแนนซ์ จากปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 8% โดยปัจจุบันเอสเอ็มอีทั้งระบบมีอยู่กว่า 2.7 ล้านราย แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 2.1 ล้านราย และนิติบุคคล 6 แสนราย ในจำนวนนี้ลงทะเบียนจัดทำบัญชีเดียวแล้ว 4.5 แสนราย
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ 5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์ จะเริ่มนำร่องให้สินเชื่อเพื่อจูงใจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทำบัญชีเดียว โดยจะดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม 2562-31 ธันวาคม 2563 รวม 2 ปี โดยเอสเอ็มอีที่ใช้บัญชีเล่มเดียวขอสินเชื่อในช่วงระยะเวลา ดังกล่าวนี้ จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 5% ระยะเวลา 2 ปี ส่วนวงเงินสินเชื่อที่ลูกค้าแต่ละรายจะได้รับขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะได้ทั้งขอสินเชื่อใหม่และรีไฟแนนซ์ จากปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 8% โดยปัจจุบันเอสเอ็มอีทั้งระบบมีอยู่กว่า 2.7 ล้านราย แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 2.1 ล้านราย และนิติบุคคล 6 แสนราย ในจำนวนนี้ลงทะเบียนจัดทำบัญชีเดียวแล้ว 4.5 แสนราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น