สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 มิ.ย. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ขีดเส้นส่งแผนบริหารกองทุน
ธปท.เผย 3 แนวทางอุ้มแบงก์
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากที่ ธปท. สั่งให้ธนาคารพาณิชย์ประเมินและจัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนช่วง 1-3 ปีข้างหน้านั้น ได้นัดส่งแผนช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งหากผลออกมาว่าระดับเงินกองทุนธนาคารอยู่ระดับต่ำกว่าเกณฑ์ 11.5-12.5% จะต้องมาหารือร่วมกันถึงแนวทางเพิ่มเงินกองทุน เช่น การออกหุ้นกู้ การนำเงินที่งดจ่ายปันผลระหว่างกาลปีนี้มาเป็นกำไรสะสมเพื่อเป็นเงินกองทุน และแนวทางสุดท้ายคือการเพิ่มทุนธนาคาร เป็นต้น โดยระดับเงินกองทุนปัจจุบันอยู่ที่ 18.7% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ธปท. กำหนด ถือว่ามีความเข้มแข็งมาก

กสิกรคาดกนง. คงดอก 0.50%
นายเชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อรอดูประสิทธิผลของมาตรการการเงินการคลังที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ ทั้งการลดดอกเบี้ยนโยบายเมื่อ พ.ค. 63 มาตรการช่วยเหลือทางการเงิน เช่น การพักชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น รวมถึงมาตรการเยียวยา การฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ต่อการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 และช่วยประคับประคองภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้

พาณิชย์จ่อคุมกำไรค่ายา
เร่งสำรวจรพ.ลดราคา
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างการประเมินผลนโยบายการเข้าไปดูแลเรื่องของราคายาและค่าบริการในโรงพยาบาลเอกชน ว่า สามารถผลักให้โรงพยาบาลเอกชน 351 แห่ง ลดราคาลงมาแค่ไหน เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน แต่หากสัดส่วนราคาที่ลดลงมายังน้อย ก็จะเร่งออกมาตรการอื่นที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันการกำหนดเพดานกำไร หรือมาร์จิ้นในตัวยาแต่ละกลุ่ม อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวยอมรับว่ามีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเพราะจะมีผลกระทบต่อแผนธุรกิจของโรงพยาบาล

ชี้คลายล็อกกำลังซื้อไม่ฟื้น
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้รัฐบาลจะคลายล็อกดาวน์ให้หลายธุรกิจกลับมาดำเนินงานและค้าขายได้ แต่ภาวะความเป็นอยู่ของประชาชนยังแย่ โดยเฉพาะในด้านของกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวจากปัญหาการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องจับตาดูสถานการณ์เดือนต่อเดือนและคาดว่าอาจลากยาวไปอีก 3-4 ปีข้างหน้า แม้รัฐบาลจะออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือด้วยการให้เงินหรือได้รับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจากสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่เงินดังกล่าวเป็นเพียงส่วนน้อยทำให้ยังใช้เงินแบบประหยัด

จี้สั่งปรับสิทธิประโยชน์ อุตฯเป้าหมายพื้นที่อีอีซี
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กพอ. ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทบทวนสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี โดยขอให้มองว่า หลังจากนี้ประเทศไทยมีความต้องการอุตสาหกรรมแน่ ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ 5 ประเภท ที่ตั้งใจว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย แต่ที่ผ่านมาเมื่อเกิดภาวะโควิด กลับมีนักลงทุนมาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมชนิดนี้น้อย ดังนั้นหากประเทศไทยยังต้องการอุตสาหกรรมเหล่านี้เข้ามาลงทุน คงต้องทบทวนสิทธิประโยชน์ใหม่อีกครั้ง

ลุ้นตั้ง 2 กองทุนเอสเอ็มอี
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือภายหลังยื่นขอวงเงินจัดตั้งกองทุน 50,000 ล้านบาท จากงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้รอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. พิจารณาว่า จะอนุมัติวงเงินเท่าใด โดยคาดว่าจะชัดเจนภายในเดือนก.ค.นี้ เนื่องจากต้องเร่งนำเงินมาปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีโดยเร็ว