วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 04 ก.พ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ขายชื่อตั้งบริษัทเจอแน่คุก 3 ปี
พาณิชย์ดัดหลังแก๊งโกง ชาวบ้านร้องแอบอ้างชื่อ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศ เรื่องแจ้งเตือนประชาชนกลุ่มที่รับจ้างขายชื่อ โดยยินยอมให้นำชื่อของตนเองไปใช้จดทะเบียนธุรกิจซึ่งอาจได้รับค่าตอบแทนหรืออาจจะไม่ได้รับก็ได้รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนทั่วไปให้ใช้ความระมัดระวังในการลงลายมือชื่อในแบบพิมพ์เพื่อใช้ในการยื่นคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท พ.ศ. 2563 เพราะการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจโดยไม่มีเจตนา หรือจุดประสงค์ที่จะดำเนินธุรกิจตามที่แจ้งไว้ ถือเป็นการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อนายทะเบียนและจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรมฯ จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวให้ถึงที่สุด
'ออมสิน' ร่วมคลินิกแก้หนี้
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ขยายโครงการคลินิกแก้หนี้ระยะที่ 3 โดยครอบคลุมลูกหนี้ที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลแบงก์รัฐจากธนาคารออมสิน จากเดิมให้เฉพาะธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์ รวมทั้งขยายเข้าร่วมแม้มีเจ้าหนี้เพียงรายเดียว และรวมลูกหนี้ที่ถูกดำเนินคดีในชั้นศาลและมีคำพิพากษาแล้ว (คดีแดง) จากเดิมลูกหนี้ต้องไม่ถูกดำเนินคดีเท่านั้น ซึ่งคลินิกแก้หนี้ระยะ 3 ต้องเป็นเอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 ม.ค. 63
เฮชิมช้อปใช้ 4 'สงกรานต์'
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงโครงการชิมช้อปใช้ระยะ 1-3 ที่เพิ่งจบไปเมื่อ 31 ม.ค. 63 ว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาจัดทำโครงการชิมช้อปใช้ ระยะ 4 อยู่ โดยหากออกมาจะเริ่มใช้ได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้เศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นแต่การค้าของโลกก็ยังไม่แน่นอน อีกทั้งมีปัจจัยเสี่ยงใหม่ จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและความล่าช้างบประมาณปี 63 จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลที่จะต้องพิจารณามาตรการออกมาเพิ่มโดยชิมช้อปใช้ เฟส 4 อยู่ในแนวทางพิจารณาที่เหมาะสมอยู่
ลดกำไรบจ.ต่ำกว่า 1 ล้านล. จีดีพี 'ปีหนู' โตไม่ถึง 2.5%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปรับลดประมาณการตัวเลขกำไรสุทธิ และกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปี 63 จาก 1 ล้านล้านบาท เหลือ 968,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น ที่ระดับ 92.62 บาทต่อหุ้น เติบโต 0.5% เนื่องจากจีดีพีประเทศปีนี้ขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมิน เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีการระบาดของไวรัสโคโรนา สงครามการค้าสหรัฐและจีนยังคงอยู่ รวมถึงในประเทศยังมีความล่าช้าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 ภาวะภัยแล้ง และภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
ดัน 30 สินค้ากู้ส่งออกไทยโต
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้วิเคราะห์สินค้าที่มีแนวโน้มการส่งออกขยายตัวได้ดี และเร่งรัดผลักดันการส่งออกเพิ่มมากขึ้นในปี 63 เพื่อให้การส่งออกภาพรวมกลับมาขยายตัวเป็นบวก โดยพบว่ามีสินค้ากว่า 30 รายการครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตรและอาหาร และสินค้าอุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของการส่งออกทั้งหมดและในปี 62 ที่ผ่านมาสินค้าในกลุ่มดังกล่าวขยายตัวมากกว่า 13% แม้ว่าการส่งออกจะประสบปัญหาการค้าโลกที่ชะลอตัว
ลดภาษีประคองท่องเที่ยว
'พิพัฒน์' ของบ 500 ล.ช่วย
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 4 ก.พ.นี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในส่วนของกระทรวงการคลัง ให้พิจารณา ประกอบด้วย มาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน มาตรการขยายเวลายื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มาตรการกระตุ้นประชาชนให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และมาตรการหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ปรับปรุงสถานประกอบการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และดูแลเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้
'สมคิด' คุมบอร์ดรถอีวี ชงมาตรการหนุนลงทุน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ว่า รายชื่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว คาดว่ากลางเดือน ก.พ.นี้ น่าจะจัดตั้งอย่างเป็นทางการได้ โดยโครงสร้างคณะกรรมการฯ มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีกรรมการจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้อย่างเป็นระบบมีทิศทางชัดเจน หลังจากก่อนหน้านี้มีการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์อีวี แต่ไม่มีแผนดำเนินการชัดเจน โดยเฉพาะการผลักดันความต้องการ ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นผู้ซื้อรถและลงทุนตามมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น