วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 14 ม.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
อานิสงส์ฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 ดันยอดเครื่องฟอกอากาศโต สัปดาห์เดียวขายทะลุสิบเท่า
นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อ ไดกิ้น เปิดเผยว่า ขณะนี้คนไทยเริ่มตื่นตัวเรื่องกระแสฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 อีกครั้ง ส่งผลให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศไดกิ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว ซึ่งส่วนใหญ่ขายดีในลูกค้ากรุงเทพฯและเชียงใหม่ทั้งจากช่องทางห้างสรรพสินค้า ตัวแทนจำหน่าย และดีลเลอร์ที่สั่งซื้อสินค้าไปสต๊อกขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เนื่องจากผู้บริโภคมีการใส่ใจสุขภาพ ต้องการหลีกเลี่ยงจากอาการเจ็บป่วย และเริ่มเห็นความสำคัญของการใช้งานมากขึ้น เพราะฝุ่นละอองเป็นสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นและอาศัยอยู่ในทุกพื้นที่
ตรุษจีนเน้นประหยัดคุ้มค่า กระทบเงินสะพัดลดลง 3%
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 63 ศูนย์วิจัยฯ ได้ประเมินการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยเชื้อสายจีนในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 13,150 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อชะลอตัวเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจทั้งค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว แจกเงินแต๊ะเอีย และค่าใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงทั้งสิ้น และต้องติดตามภัยแล้งในหลายพื้นที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาเครื่องเซ่นไหว้ให้มีราคาที่สูงขึ้นกว่าปกติ
เล็งออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว
นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค.นี้ หัวหน้าหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเข้าหารือกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางหรือการออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของไทยในปี 63 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะจากสถานการณ์ในปัจจุบัน พบว่า เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว และยังมีปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ซึ่งปัจจัยทั้งหมดอาจส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในปีนี้ได้ จึงต้องร่วมกันหารือถึงแนวทางรับมือผลกระทบดังกล่าวเอาไว้ล่วงหน้า
ธ.กรุงเทพรอแบงก์ชาติอนุมัติ ซื้อกิจการเพอร์มาตาคาดก.พ.นี้
นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตาประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะอนุมัติเสร็จทันเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นธนาคารบรรจุเป็นวาระการซื้อกิจการเพอร์มาตาในเดือนก.พ.นี้ และจะจ่ายเงินในครั้งเดียวเพื่อโอนเงินซื้อกิจการ 89.12% มูลค่า 8.1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 63 ทันที
ศุลกากรเล่นโหดจับของเถื่อน
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผน ตรวจค้นจับกุมสินค้าลักลอบหนีภาษีเข้ามาในไทย อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และสินค้าละเมิดอนุสัญญาไซเตส โดยให้สืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง บ้านเรือน แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอย่างเคร่งครัด
สั่งทำแพ็กเกจกระตุ้นลงทุน จีนดันบีโอไอทะลุ 7.56 แสนล.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 63 ว่า ได้สั่งการให้บีโอไอเร่งหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหามาตรการเร่งรัดการลงทุนของเอกชนไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยฉวยจังหวะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าให้เกิดการลงทุนที่แท้จริงให้มากขึ้น ซึ่งกำหนดให้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ภายในเดือนก.พ.นี้
สวนยางเหี่ยวราคาร่วงต่อ อีไอซีแนะขยายตลาดใหม่
น.ส.กัญญารัตน์ กาญจนวิสุทธิ์ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า ได้ทำการวิจัยปัญหาของยางพาราไทย โดยทั้งอุตสาหกรรมยางพาราต้องแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง เช่น การลดอุปทาน การเพิ่มการใช้ภายในประเทศ การขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ รวมไปถึงการแปรรูปไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการ ตั้งแต่การวางแผนการผลิต การแปรรูป การวิจัยและพัฒนา และการตลาด จากทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยางพารา
ชี้ค่าบาท-ส่งออก-น้ำมัน ดันเงินหาย 1.2 แสนล้าน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 63 ใหม่ เหลือ 2.8% จากเดิมขยายตัว 3.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงจำนวนมาก โดยเฉพาะผลกระทบจากการแข็งค่าเงินบาท ที่ทำให้มูลค่าส่งออกไทยลดลง 70,000-80,000 ล้านบาท ผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและคนไทยต้องจ่ายเงินเพิ่ม 25,000-30,000 ล้านบาท และภัยแล้งที่กระทบต่อพืชผลทางการเกษตร 10,000 ล้านบาท เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น