สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 01 ต.ค. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ท่องเที่ยวชี้เลิกแน่ตม.30
ชงครม.ศก.ไฟเขียว 7 ตค.นี้ เอกชนขอตั้งท่าเรือสำราญ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันที่ 7 ต.ค.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอให้ยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรา 38 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองของประเทศไทย โดยเฉพาะการบังคับให้ผู้ประกอบการที่พัก หรือชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตเข้ามาทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องกรอกใบ ตม.30 เมื่อมีการย้ายถิ่นฐานภายใน 24 ชั่วโมงให้กับเจ้าหน้าที่รับทราบ ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคสำคัญกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวอย่างมาก จนทำให้ไม่เกิดการกระจายรายได้ลงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ

จับมือดึงเอสเอ็มอีระดมทุน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า การลงนามร่วมกันครั้งนี้จะช่วยให้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็วขึ้น ผ่านการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จากเดิมใช้เวลากว่า 3 ปี อาจเหลือเพียงแค่การใช้เวลาระยะ 1-2 ปีเท่านั้น

บางกอกซิตี้ฯ เร่งปรับแผน ชี้ทุ่มบิ๊กดาต้าเชื่อมข้อมูล
นายชยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด ตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในเครือเอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากนโยบายแอลทีวีส่งผลให้ตลาดรีเซลหรือรับฝากขายที่อยู่อาศัยชะลอการตัดสินใจซื้อจากนักลงทุน เนื่องจากไม่สามารถกู้เงินซื้อได้เต็มจำนวนเหมือนในอดีต ทำให้ทิศทางหลังจากนี้บริษัทปรับกลยุทธ์เน้นขายโครงการใหม่เพื่อให้นักลงทุนมีระยะเวลาในการซื้อและเตรียมโอนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และขายลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยแท้จริงมากกว่า ตั้งเป้าหมายปีนี้เพิ่มสัดส่วนการขายโครงการใหม่จาก 30% เป็น 50% และรีเซล ลดลงเหลือเพียงประมาณ 50% เท่านั้น จากรายได้โดยรวมที่มีประมาณ 15,000 ล้านบาท

ยันเศรษฐกิจไทยไม่วิกฤติ
ธปท.เกาะติดเก็งกำไรบาท
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ แต่ยืนยันยังไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เนื่องจากปัจจัยกระทบต่อเศรษฐกิจมาจากภายนอกประเทศเป็นหลัก ขณะที่การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ปรับลดประมาณการลงบ้าง เนื่องจากการลงทุนโดยเฉพาะในโครงการของรัฐวิสาหกิจหลายโครงการล่าช้ากว่าที่คาดไว้ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้เห็นชอบให้ลดการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี เหลือ 2.8% หลังจากเห็นว่า ผลกระทบจากสงครามการค้ารุนแรงกว่าที่คาดไว้ และยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย ซึ่งนอกจากกระทบกับภาคการส่งออกแล้ว ยังส่งผลต่อภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

ทองคำพุ่งแน่ 2.3 หมื่นบาท หลังเศรษฐกิจโลกยังป่วน
นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนทองคำ ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 62 ว่า ทิศทางทองคำโลกยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยโอกาสทดสอบ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำไทยจะมีแนวรับที่ 21,600 บาท และมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 23,000 บาทในช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องจากได้รับอานิสงส์จาก 3 ประเด็นหลักของโลก ทั้งสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ, การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

จ่อลงนาม 3 โครงการอีอีซี มาบตาพุด-อู่ตะเภา-รถไฟ
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือกพอ. ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่าการลงทุนกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 1 ต.ค.นี้ กนอ.จะเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบให้ขยายเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการถมทะเลเพิ่มในระยะแรกประมาณ 1,000 ไร่ หากผ่านการเห็นชอบจาก ครม.เป็นที่เรียบร้อย ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กนอ.จะจัดพิธีลงนามร่วมกับกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์-พีทีที แทงค์ ซึ่งเป็นเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการดังกล่าวทันที