วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 ก.ย. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
เอ็กซิมเตือนระวังภัยไซเบอร์ 'เอสเอ็มอี'ถูกแฮกข้อมูล ชี้โทรคุยลูกค้าป้องกันได้
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจนำเข้าส่งออก ได้รับความเสียหายจากอาชญากรไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการตรวจพบรายการโอนเงินที่ถูกปลอมแปลงผู้รับหรือบัญชีผู้รับมากขึ้น โดยรูปแบบที่โจรกรรมมาก อาทิ มีการเจาะเข้าระบบอีเมลโดยแฮกเกอร์ (แฮกเกอร์) เพื่อปลอมแปลงเป็นผู้ขายสินค้าในต่างประเทศติดต่อกับผู้นำเข้าไทยทางอีเมล ซึ่งผู้นำเข้าไทยจะไม่รู้ตัวว่ากำลังติดต่อกับแฮกเกอร์
แนะปลูกต้นไม้ค้ำประกันกู้เงิน 
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ร่วมกับกรมป่าไม้ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรลงพื้นที่ให้ความรู้ผู้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ผู้บังคับหลักประกัน และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับบทบัญญัติของกฎหมายสิทธิและหน้าที่ของผู้ให้หลักประกัน ผู้รับหลักประกันและผู้บังคับหลักประกัน รวมถึงแนวทางการนำไม้ยืนต้นมูลค่าสูงมาเป็นหลักประกัน หลังจาก ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ
จับตาค่าครองชีพปลายปีพุ่ง ราคาสินค้า-พลังงานปรับขึ้น 
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยฯจับตาค่าครองชีพของครัวเรือนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 61 และจะติดตามต่อเนื่อง หลังจากคาดว่าระดับราคาสินค้าและบริการในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะในช่วงดังกล่าวจะมีเทศกาลกินเจ ที่จะทำให้ราคาอาหารสดเพิ่มขึ้นได้ และค่าโดยสารสาธารณะบางประเภทที่ผู้ประกอบการหลายฝ่ายขอปรับขึ้นเนื่องจากแบกรับต้นทุนไม่ไหว แม้ภาครัฐจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรก็ตาม
บิ๊กตู่อนุมัติควบทีโอที-กสท ตั้งบ.โทรคมนาคมแห่งชาติ สั่งทีจีแจงซื้อเครื่องบินใหม่ 
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ควบรวมกิจการของ บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม เข้าไว้ด้วยกัน แล้วตั้งเป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านโทรคมนาคมของประเทศ เพราะในอนาคตเรื่องดังกล่าวจะมีการแข่งขันที่สูงมาก ดังนั้นการควบรวมกิจการของรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง จึงมีความจำเป็น และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร และประเทศจะได้รับประโยชน์ด้วย
ธ.กรุงเทพสาขาจีนคุยฟุ้ง สินเชื่อปี 61 ขยายตัว 20%
นายสุวัชชัย ทรงวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) เปิดเผยว่า ปี 61 นี้สินเชื่อของธนาคารกรุงเทพในจีนที่ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาขา สามารถเติบโตได้ 20% มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากปี 60 ที่เติบโตได้ 5-6% จากปัจจัยบวกด้านเศรษฐกิจและการขยายตัวทางธุรกิจของลูกค้ากลุ่มนิติบุคคลที่ปัจจุบันมี 200-300 ราย โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน การผลิต และเกษตรกรรม รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าใหม่ในภูมิภาค อาทิ ไต้หวัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนที่ 25% ขณะที่ลูกค้าหลักยังเป็นลูกค้าท้องถิ่นจีน 40% และลูกค้าไทย 30%
ขุนคลังแตะเบรกธปท.ขึ้นดอกเบี้ย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยทิศทางการดูแลดอกเบี้ยในประเทศไทยว่า กระทรวงการคลังได้แสดงความเห็นมาหลายครั้งแล้ว ว่าขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่กระทรวงการคลังไม่มีอำนาจไปสั่งธปท. ได้ อย่างไรก็ตามการขึ้นดอกเบี้ยควรชั่งน้ำหนัก เหมือนธนาคารกลางสหรัฐที่คิดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว แต่เมื่อเกิดเรื่องสงครามการค้าก็มีการชะลอขึ้นดอกเบี้ยออกไป ธปท.ก็ต้องพิจารณาว่า หากเศรษฐกิจมีความเสี่ยงก็ควรชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่หากเห็นว่าไม่มีความเสี่ยงก็เป็นอำนาจของ ธปท. ที่จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย
แฉจำนำทะเบียนรถดอกเบี้ยโหด 
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับข้อมูลจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้ว่ามีผู้เสียหาย 100 ราย ที่ทำสัญญากู้ยืมเงินกับธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถชั้นแนวหน้าของประเทศ มาร้องต่อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคให้ความช่วยเหลือและเพื่อเตือนภัยสังคมหลังจากที่ลูกหนี้ถูกธุรกิจดังกล่าวคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดบางรายสูงถึง 30% ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น