วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 19 มิ.ย. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ก.ท่องเที่ยวฯจ้องเก็บเงิน ค่าเข้าอุทยาน-พลาสติก
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางออกมาตรการมาช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวประกอบด้วย มาตรการบังคับออกมากำหนดให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตาม มาตรการขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวเมื่อเข้ามาเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งแล้วอาจต้องขอความร่วมมือ เช่น ขอความร่วมมือไม่ให้ใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อจำกัดปริมาณขยะพลาสติกไม่ให้เพิ่มขึ้น และอาจออกมาตรการทางภาษีมาใช้ หรืออาจเก็บเงินค่าถุงพลาสติกจากนักท่องเที่ยวที่มาซื้อของจากร้านต่าง ๆ เหมือนที่เกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ ซึ่งเรื่องดังกล่าวกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะนัดกระทรวงการคลังมาหารือต่อไป
คลังชี้รายได้เกษตรเดี้ยง สอท.ย้ำกำลังซื้อภูธรไม่ฟื้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าจากผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพ.ค.61 พบว่า สิ่งที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษในเวลานี้คือกำลังซื้อในท้องถิ่น ที่ต้องจับตาเป็นรายภูมิภาค เพราะราคาพืชผลทางการเกษตรบางรายการ ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ขณะที่ในบางพื้นที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายภาครัฐ เช่น ในภาคตะวันออก ที่มีแนวโน้มการใช้จ่ายดีขึ้นจากการลงทุน เนื่องจากมีแนวโน้มขยายตัวจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะเดียวกันดัชนีคาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้าในระดับภูมิภาคพบว่าลดต่ำลงในทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกที่คาดว่าจะปรับขึ้นเป็น 108.4 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 107.5 และภาคใต้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 81.7 จากเดิมอยูที่ 80
ตปท.ขายดอลล์ทำบาทอ่อน 
รายงานข่าวจากนักค้าเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทของวันที่ 18 มิ.ย.61 ปิดตลาดที่ 32.66 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ โดยนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย และพันธบัตรไทยสูงถึง 9,000 ล้านบาท ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าในรอบ 6 เดือน ส่วนหนึ่งมาจากธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยทำให้ล่าช้าไป 3 เดือนหรือจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. 62 สร้างความผันผวนให้กับค่าเงินในวงกว้าง โดยเงินยูโรอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบกับสกุลเงินอื่น ๆ อ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์
เผยเลื่อนใช้กฎหมายที่ดินฯ รายได้คลังกระเทือนหมื่นล.
อย่างไรก็ตาม การพิจารณากฎหมายขณะนี้ได้มีการเลื่อนการสรุปออกไปอีก 2 เดือน ไปเป็นเดือนก.ค.นี้ และประเมินว่าหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ไม่ทันในปี 62 จะกระทบต่อเป้าหมายการจัดเก็บรายได้รัฐไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ส่วนการจัดทำพ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ อาจต้องเลื่อนออกไปเพราะมีความไม่ชัดเจนในตัวกฎหมายหลายประเด็น
เตือนงดซื้อทองคำช่วงสั้น
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ กรุ๊ป (ห้างทองแม่ทองสุก) เปิดเผยว่า ในระยะสั้นช่วง 2 สัปดาห์ไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อทองคำเนื่องจากต้องรอความชัดเจนเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประเมินว่าราคาทองระยะสั้นผันผวนเชิงลบหากราคาทองไม่สามารถยืนอยู่ที่ 1,280 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก็มีโอกาสจะลดลงไปอยู่ที่แนวรับ 1,250 ดอลลาร์สหรัฐ และหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจหลุดแนวรับที่คาดไว้และมีโอกาสลงอยู่ที่ระดับต่ำสุด 1,180 ดอลลาร์สหรัฐ เหมือนที่เกิดขึ้นปลายปี 60 ที่ผ่านมาทำให้ราคาทองคำในประเทศซื้อขายที่ 17,000 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น