วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 04 เม.ย. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จ่อใช้เสียงยืนยันตัวจริง บริการใหม่คอลเซ็นเตอร์
นายสุรวัตร ชินวัตร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด ด้านบริการลูกค้า ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ธนาคารเตรียมนำบริการยืนยันตัวตนบุคคลด้วยเสียงของลูกค้ามาใช้ในการให้บริการ ผ่านสายคอลเซ็นเตอร์ธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า และลดขั้นตอนเพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จะได้แก้ปัญหาของลูกค้าได้ทันที เพราะจากเดิมการยืนยันตัวตนลูกค้าผ่านคอลเซ็นเตอร์ จะต้องยืนยันผ่านคำถามข้อมูลบุคคลที่มีจำนวนมาก เพื่อความปลอดภัย ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวกและไม่ได้รับการแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ทันท่วงที โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้อนุญาตให้ธนาคารสามารถดำเนินการได้
'คนกรุง'ชักดาบหนี้รถ หลังช้อปหนักสิ้นปี 60
นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (ทีเค) เปิดเผยว่า การชำระหนี้ของลูกค้าสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะคนเมืองกรุง หรือที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เนื่องจากเชื่อว่าในช่วงปลายปีที่ผ่านมามีเทศกาลขึ้นปีใหม่ ประชาชนได้นำเงินไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยว และซื้อสินค้าไปจนไม่มีเงินมาชำระหนี้กับทางทีเค ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นอยู่ระดับ 4.7% ส่งผลให้ทีเคต้องเข้มงวดปล่อยสินเชื่อให้คนเมืองกรุง
3 แบงก์รัฐร่วมมือปล่อยกู้ ช่วยสร้างงาน-สร้างอาชีพ
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้ร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดโครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ สนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระบบได้ โดยลูกค้า ธอส. ที่ต้องการสร้างอาชีพ สามารถขอสินเชื่อจาก ธพว. โดยมี บสย.ค้ำประกันสินเชื่อ ส่วนลูกค้า ธพว. และบสย.ที่มีอาชีพที่เข้มแข็ง หากต้องการสร้าง หรือต่อเติมที่อยู่อาศัย ตลอดจนสร้างแฟลต อพาร์ตเมนต์ หรือทำโครงการบ้านจัดสรร ก็สามารถขอสินเชื่อกับ ธอส.ได้ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยเริ่มตั้งแต่ 3 เม.ย.-28 ธ.ค. 61
กกร.ปรับจีดีพีโต 4-4.5% จับตาสงครามการค้าโลก
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ประจำเดือนเม.ย.ว่า ที่ประชุม กกร.มีมติปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีปี 61 ใหม่ อยู่ที่ 4-4.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 3.8-4.5% ปรับประมาณการส่งออกใหม่เป็น 5-8% จากเดิมที่คาดไว้ 3.5-6% เงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าอยู่ที่ 0.7-1.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 1.1-1.6% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 61 ยังมีแรงส่งการขยายตัวต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจโลกขยายตัว ส่งผลให้การส่งออกไทยเติบโตแข็งแกร่ง
พิษค่าบาทฉุดส่งออกวูบแสนล. 
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธาน สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทได้ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี (ม.ค.-มี.ค.) คาดว่ามูลค่าส่งออกไทยเมื่อแลกจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมาเป็นเงินบาททำให้รายได้หายไป 100,000 ล้านบาท โดยเดือนที่เห็นผลชัดเจนคือ ยอดส่งออกเดือน ก.พ. 61 อยู่ที่ 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10.3% แต่เมื่อคิดในรูปเงินบาทอยู่ที่ 6.43 แสนล้านบาท ลดลง 0.60%
ครม.ผ่านร่างก.ม.พีพีพี กรอบโครงสร้างพื้นฐาน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในหลักการของร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือกฎหมายพีพีพี ซึ่งถือเป็นกฎหมายฉบับใหม่ที่กระทรวงการคลังยกร่างขึ้น เพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะของภาครัฐ โดยมอบหมายให้สคร.ไปหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดกิจการและโครงการลงทุนในรูปแบบพีพีพีให้ชัดเจนว่า โครงการใดจะใช้รูปแบบพีพีพี หรือใช้งบประมาณปกติภาครัฐ หรือใช้เงินกู้มาดำเนินโครงการ เช่นเดียวกับการกำหนดแนวทางการส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาลงทุนให้ชัดเจนมากขึ้น ก่อนเสนอมาให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น