วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 14 ก.พ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ข่าวสด
จ่อประกาศ-ไทยปลอด'ไอยูยู' บิ๊กฉัตรอ้างมติกก.ประมง-ชงครม.พิจารณา
วันที่ 13 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการออกใบอนุญาตประมงว่า ในสัปดาห์นี้ตนได้ติดตามการทำงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู) โดยพูดคุย 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือการติดตามการทำงาน ประเด็นที่สองคือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนชาวประมง เบื้องต้นได้ออกใบอนุญาตทำการประมงในปี 2561-62 จะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.นี้ ขณะนี้ได้ให้ชาวประมงมายื่นความจำนง โดยเรือประมงพาณิชย์มีอยู่ 11,000 ลำ แสดงความจำนงแล้วประมาณ 8,800 ลำ คิดเป็นร้อยละ 85 ทั้งนี้ระยะเวลาการยื่นความจำนงจะหมดเขตวันที่ 20 ก.พ.นี้ จึงขอให้ชาวประมงที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตมาดำเนินการตามกรอบเวลา
ฉะปฏิรูปกฎหมาย-ปชช.เข้าไม่ถึง
วันที่ 13 ก.พ. ที่อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค แจ้งวัฒนะ มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ.การจัดทำประมวลกฎหมายแบบต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก พ.ศ..... นายบรรเจิด สิงคะเนติ โฆษกกรรมการปฏิรูปกฎหมายฯ เป็นประธาน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีฐานที่มาจากรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ระบุว่าให้ดำเนินการให้ประชาชนเข้าถึงกฎหมายอย่างสะดวก เมื่อมีการจัดทำประมวลกฎหมายสำเร็จแน่นอนว่าจะต้องนำข้อมูลดังกล่าวเข้าไปสู่ข้อมูลที่เป็นดิจิตอลสามารถที่จะค้นคว้าได้ และกฎหมายฉบับนี้อยู่ในแผนคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมายที่มี 11 ฉบับ 1 ใน 11 ฉบับก็คือฉบับนี้
ครม.เห็นชอบ-แก้ปัญหากม.อาญาเฟ้อ
วันที่ 13 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการกรอบแนวทางการศึกษาและปรับปรุงกฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้มีการใช้ประโยชน์จากโทษอาญาที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย รวม 3 ประการ คือ หลักเกณฑ์ในการกำหนดโทษอาญาสำหรับกฎหมายที่จะตราขึ้นในอนาคต, การดำเนินการกับกฎหมายที่มีโทษทางอาญาในปัจจุบันเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการกำหนดโทษอาญาที่กำหนดในข้อแรก, ข้อเสนอแนะอื่นเพิ่มเติมที่คณะอนุกรรมการดำเนินการศึกษาและปรับปรุงกฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้มีการใช้ประโยชน์จากโทษอาญาตามกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายจัดทำ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.)เสนอ
กกต.ยันไม่โหวตแย้งสนช.
วันที่ 13 ก.พ. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงการ ตั้งกมธ.ร่วม 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ว่า ท่าทีของประธานกกต.สำคัญมาก ไม่ว่าจะโหวตไปฝ่ายไหน ต้องมีเหตุผลที่จะชี้แจงต่อสังคมว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามท่าทีที่ปลอดภัยกับทางกกต. คือโหวตไปทางของสนช. เท่ากับว่าไม่ได้ไปขัดกับสภาใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้ทำให้เป็นประเด็น ที่นำไปสู่การคว่ำกฎหมายฉบับนี้ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ประธานกกต. เพราะมีความเห็นอิสระในการที่จะคิดตัดสินใจเอง ไม่มีความจำเป็นต้องกลับมาถาม กกต.อีก เพราะเป็นเรื่องที่เราคุยกันในกรรมการกกต.แล้วว่าจะไม่แย้ง เมื่อไม่แย้งความเห็น กกต.เห็นว่าไม่เป็นปัญหา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น