วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2566

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 12 ม.ค. 2566

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

'บิ๊กตู่' ย้ำเอสเอ็มอีต้องไปต่อ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ดส่งเสริมเอสเอ็มอี) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้อนุมัติสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี และช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วงเงิน 1,180 ล้านบาท ใน 3 โครงการหลัก คือโครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว 968 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นหน่วยงานดำเนินการ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์มากกว่า 1,500 ราย วงเงินค้ำประกันรวมที่จะเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท โดยจะมีการผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการชั้นดี เป็นกรณีพิเศษ

เอกชนผวาปัจจัยเสี่ยงศก.
แรงงานขาด-ต้นทุนบานฉ่ำ ส่งออกวูบลุ้นท่องเที่ยวอุ้ม
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทยประจำเดือน ม.ค.66 กล่าวว่า กกร. ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 66 ยังมีข้อจำกัดการฟื้นตัวแม้แนวโน้มภาคการท่องเที่ยวของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ภาคเอกชนยังกังวลปัญหาแรงงานในภาคการท่องเที่ยวที่ยังขาดแคลน รัฐบาลต้องหาแนวทางดึงกลุ่มแรงงานกลับเข้าสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้เพียงพอในการรองรับการฟื้นตัวต่อไป

ต่อสินค้าควบคุม 5 รายการ
กางแผนตรึงราคาตลอดปี
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติเห็นชอบให้ต่ออายุสินค้าควบคุม 5 รายการ ที่จะสิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค.66 ออกไปอีก 1 ปี ประกอบด้วย 1.หน้ากากอนามัย 2.ใยสังเคราะห์ เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยที่เรียกว่า สปันบอนด์ 3.แอลกอฮอล์และเจลล้างมือ 4.เศษกระดาษและกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีกที่เรียกว่ากระดาษรีไซเคิล และรายการที่ 5.ไก่และเนื้อไก่

จี้แก้ปัญหาลานเทดึงปาล์ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัด เร่งแก้ปัญหากรณีที่ปาล์มเกษตรกรที่ไปขายโรงสกัดติดขัด หลังโรงสกัดบางโรงมีการซ่อมเครื่องจักร และบางแห่งไม่สามารถสกัดได้ตามปริมาณที่เกษตรกรนำไปขาย ทำให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและราคาปาล์ม เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว เพื่อให้เกษตรกรส่งปาล์มเข้าโรงสกัดได้ในสถานการณ์ที่ปกติโดยเร็วที่สุด ไม่ให้ราคาปาล์มปรับลดลงมา

โอ่ดึงตปท.มาไทย 80 ล้านคน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิดการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ว่า กระทรวงฯตั้งเป้าหมายปี 70 หรือในอีก 5 ปี จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 80 ล้านคน เติบโต 2 เท่า เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนการระบาดของโควิด-19 ทำให้ในปี 70 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าคนไทยซึ่งปัจจุบันมี 70 ล้านคน สร้างรายได้รวมด้านการท่องเที่ยว 5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากฐานรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.93 ล้านล้านบาทเมื่อปี 62

ธพว.ส่งเอสเอ็มอีดีพร้อม ปล่อยกู้ 50 ล.ฟื้นท่องเที่ยว
น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอี แบงก์ เปิดเผยว่าธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เอสเอ็มอี ดีพร้อม วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเปิดศักราชใหม่ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีเงินทุนนำไปใช้เสริมสภาพคล่องกิจการลงทุน ปรับปรุง ขยาย ปรับเปลี่ยนธุรกิจหมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง สูงถึง 50 ล้านบาท และ สามารถรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น ช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้ด้วย ช่วยสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท

เตือนภัยเว็บแบงก์ปลอม ชี้ระบาดสวมรอย 'ฉกเงิน'
นายกิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ผู้จัดการจัดการความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคนตกเป็นเหยื่อคลิกเข้าเว็บไซต์ธนาคารของปลอม โดยกดค้นหาเว็บไซต์จากผู้ให้บริการโปรแกรมค้นหา ซึ่งมิจฉาชีพได้เข้ามาซื้อโฆษณาเพื่อเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ปลอมที่มีชื่อใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของธนาคาร จนเป็นเหตุให้มิจฉาชีพนำข้อมูลไปสวมรอยเพื่อทำรายการโอนเงินของลูกค้า โดยธนาคารแนะนำให้ลูกค้าระมัดระวัง สังเกตชื่อเว็บไซต์ อย่าบอกรหัสใดๆ แก่ผู้อื่น และยืนยันไม่มีนโยบายสอบถามหรือขอข้อมูลส่วนตัวและเอกสารส่วนบุคคลของลูกค้า เช่น รหัสผู้ใช้ รหัสพิน หรือ รหัสโอทีพีที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือลูกค้าแต่อย่างใด ซึ่งลูกค้าจึงควรระมัดระวังและตรวจสอบให้แน่ใจก่อนกรอกข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวลงในเว็บไซต์

ปั้นดี-ชัวร์มาตรฐานดิจิทัล เปิดราคากลางจัดซื้อจัดจ้าง
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า เปิดเผยว่าในเดือนก.พ.นี้ ดีป้าจะประกาศมาตรฐานสำหรับสตาร์ทอัพ ที่ต้องการนำบริการดิจิทัล ขึ้นบัญชีบริการ ภายใต้ชื่อมาตรฐาน ดี-ชัวร์ ซึ่งแต่ละบริการอาจได้การรับรองแตกต่างกัน เพื่อกำหนดราคากลางที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้เมืองที่ต้องการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ สามารถตอบ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ได้ว่าใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม นอกจากนี้เมืองที่ใช้บริการดิจิทัลที่ได้ขึ้นบัญชียังได้รับส่วนลดด้านภาษีตามสิทธิประโยชน์ของบีโอไออีกหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ครม. ได้เห็นชอบให้ดีป้าจัดทำบัญชีบริการดิจิทัลส่งเสริมผู้ประกอบการ ดิจิทัลของประเทศไทย (ดิจิทัลสตาร์ทอัพ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น