สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ส่งออกครึ่งปีวูบ7%สรท.ฝากผู้ว่าธปท.คนใหม่กดบาทอ่อน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ แห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. แถลงตัวเลขสถานการณ์ส่งออกเดือนมิถุนายน 2563 ที่ สรท.นางสาว กัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท. กล่าวว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น สรท.มีความเป็นกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้การส่งออกของโลกมีการหดตัวเป็นอย่างมากรวมทั้ง ภาคการส่งออกของไทย ซึ่ง สรท.คาดว่าในปี 2563 นี้ จะมีอัตราการหดตัวอยูที่ประมาณ-10% ภายใต้เงื่อนไข ที่ต้องมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 17,879 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ แห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. แถลงตัวเลขสถานการณ์ส่งออกเดือนมิถุนายน 2563 ที่ สรท.นางสาว กัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท. กล่าวว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น สรท.มีความเป็นกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้การส่งออกของโลกมีการหดตัวเป็นอย่างมากรวมทั้ง ภาคการส่งออกของไทย ซึ่ง สรท.คาดว่าในปี 2563 นี้ จะมีอัตราการหดตัวอยูที่ประมาณ-10% ภายใต้เงื่อนไข ที่ต้องมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 17,879 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน
ฟันธง'กนง.'คงดอกเบี้ย0.50%กสิกรฯชี้เหตุเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทีมศก.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 คณะกรรมการจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อรอดูภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม(GDP) ของไทยในไตรมาส 2/2563 ที่คาดว่าจะหดตัวลึกสุดในรอบปี ที่จะเผยแพร่ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากตัวเลขหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็จะเพิ่มแรงกดดันให้ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อีกทั้ง คาดว่า กนง. คงจะรอติดตามประสิทธิผลของมาตรการการเงินและการคลังที่ได้ออกมาก่อนหน้านี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 คณะกรรมการจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อรอดูภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม(GDP) ของไทยในไตรมาส 2/2563 ที่คาดว่าจะหดตัวลึกสุดในรอบปี ที่จะเผยแพร่ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากตัวเลขหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็จะเพิ่มแรงกดดันให้ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อีกทั้ง คาดว่า กนง. คงจะรอติดตามประสิทธิผลของมาตรการการเงินและการคลังที่ได้ออกมาก่อนหน้านี้
ไทยจ่อกู้เงินนอก4.8หมื่นลบ.ตามแผนใช้ฟื้นฟู-เยียวยาพิษโควิด
ที่ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ COVID-19 Active Response and Expenditure Support Program ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และอนุมัติให้ กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลไทยจาก ADB วงเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 48,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563
ที่ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ COVID-19 Active Response and Expenditure Support Program ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และอนุมัติให้ กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลไทยจาก ADB วงเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 48,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น