วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 08 ก.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
'กัลฟ์' ลุยไฟฟ้าเยอรมนี
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อ ตลท.ว่า บริษัท กัลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มบริษัท บอร์คุม ริฟกรุนด์ 2 อินเวสเตอร์ โฮลดิงส์ จำกัด, แฟรงก์เฟิร์ต อัม ไมน์, เยอรมนี (บีเคอาร์ 2 โฮลดิ้ง) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 50% ในโครงการบอร์คุม ริฟกรุนด์ 2 ออฟชอร์ วินด์ ฟาร์ม จำกัด หรือโครงการบีเคอาร์ 2 ด้วยเงินประมาณ 548-558 ล้านยูโร หรือประมาณ 19,219-19,570 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลของประเทศเยอรมนี
แฉออนไลน์ขายทองยัดไส้
ฉวยจังหวะราคาแพงต้มตุ๋น 'จีไอที' เตือนมีสติก่อนจะซื้อ
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตลาดทองคำทั่วโลกเริ่มประสบกับปัญหา "ทองคำยัดไส้" หรือ "ทองคำแท่งปลอม" โดยมีการนำทองคำมาสอดไส้โลหะ อื่นๆ เช่น ทองแดง หรือตะกั่ว เพื่อหลอกขายเป็นทองคำบริสุทธิ์เพราะปัจจุบันราคาทองคำพุ่งทะยานสูงขึ้นตลอดเวลา โดยทำสถิติสูงขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปี ทำให้มีการฉวยโอกาสนำทองคำปลอมมาหลอกขายในรูปแบบต่างๆ จนส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำ
เพลย์บอยรุกทั่วโลก ไม่หวั่นไวรัสโควิด-19
นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัย เปิดเผยว่า ปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันยอดขายถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นแบรนด์เพลย์บอย ให้ครอบคลุมหลายภูมิภาค ล่าสุดได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในทวีปยุโรป 6 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม บัลแกเรีย ลักเซมเบิร์ก และโรมาเนีย เพื่อให้สิทธิในการทำตลาดซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นตรวจสอบเอกสารใบรับรองสินค้าจากภาครัฐ คาดว่าเริ่มมีคำสั่งซื้อในปลายปีนี้ จากเดิมที่รับจ้างผลิตให้กับกลุ่มประเทศดังกล่าว และยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในยุโรปเพิ่มอีก 1 ประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปไตรมาส 3 นี้
ตปท.เที่ยวไทย 8.2 ล้านคน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยใหม่อีกครั้ง หลังการผ่อนคลายให้เดินทางเข้าไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา กลายเป็นสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง ทำให้ในปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยได้ประมาณ 8.2 ล้านคน ลดลง 80% และสร้างรายได้ประมาณ 3.96 แสนล้านบาท ลดลง 40% หรือจะมีต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 1.5 ล้านคน
ส่งออกยังไม่เห็นแสงสว่าง
จัด 5 กลุ่มสินค้าหาทางออก
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธสน.ได้ทำการวิเคราะห์และจัดกลุ่มประเภทธุรกิจส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด และภาวะเศรษฐกิจโลกหดตัวออกเป็น 5 กลุ่ม โดยกลุ่มธุรกิจที่อาการวิกฤติเข้าขั้นโคม่า ซึ่งมียอดส่งออกหดตัวต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งช่วงก่อนเกิดการระบาดและระหว่างการระบาดของไวรัสโควิด ได้แก่ อุตสาหกรรมไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เคหะสิ่งทอ กล้องถ่ายรูป แม่พิมพ์หุ่นแบบหล่อโลหะ ผลิตภัณฑ์แป้งมัน และกุ้งแช่แข็ง ซึ่งมียอดส่งออกหดตัวต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างและมูลค่าเพิ่มต่ำ อีกทั้งถูกซ้ำเติมจากกระแสเทคโนโลยี ซึ่งจะต้องเร่งหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความอยู่รอด
สอท.เปิดสมุดปกขาวพลังงาน
นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ทำสมุดปกขาวด้านพลังงานหมุนเวียน ภาคประชาชน ฉบับที่ 1 (ปฐมฤกษ์) เสร็จแล้ว และเตรียมเปิดสัมมนารับฟังความเห็นจากภาคเอกชนและภาคประชาชนทั่วไปในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เพื่อให้ภาครัฐนำไปประกอบการขับเคลื่อนนโยบายให้สอดรับกับภาคประชาชน
คาดหุ้นไทยแตะ 1,450 จุด ชี้เงินทุนต่างชาติไม่โงหัว
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 63 นี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,400-1,450 จุด ส่วนทิศทางของกระแสเงินทุนต่างชาติในช่วงครึ่งปีหลัง ยังไม่มีปัจจัยบวกมากพอที่จะทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับมามาก โดยในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งยังเร็วเกินไปที่จะไหลกลับเข้ามายังตลาดหุ้นไทย เพราะนักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นต่อการคลายล็อกมาตรการภาครัฐว่า จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีแค่ไหน
รง.แห่เพิ่มกำลังผลิตหน้ากาก
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดการผลิตหน้ากากอนามัยของไทยเพิ่มขึ้นจากวันละ 1.2 ล้านชิ้น มาอยู่ที่วันละ 4.2 ล้านชิ้น เนื่องจากมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้มาตรฐานและขายให้กับรัฐเพิ่มจาก 11 ราย เป็น 16 ราย ประกอบกับวัตถุดิบสำคัญอย่างเมลท์โบลนที่เป็นแผ่นกรองเชื้อโรค หาซื้อได้ง่ายขึ้น และราคาถูกลง เพราะผู้ผลิตรายใหญ่อย่างจีน สามารถส่งออกได้แล้ว จากก่อนหน้านี้จำกัดการส่งออกเพื่อให้มีเพียงพอในประเทศ
จี้บิ๊กตู่ดูแลค่าเงินบาท ยื่นขอ 34 บ.ต่อดอลลาร์
น.ส.กัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า เตรียมทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาเรื่องเงินบาทแข็งค่าเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยเสนออัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันที่ 31.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าจากปีก่อนก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมาเงินบาทปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านจนส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลงและกระทบต่อการส่งออกไทยด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น