วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 04 มิ.ย. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
แบงก์ชาติคุมเงินกู้ดิจิทัล
ล้อมคอกแก้หนี้นอกระบบ ขีดเส้นปล่อยกู้ 2 หมื่นบาท
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้เปิดแสดงความคิดเห็นแนวทางกำกับดูแลสินเชื่อดิจิทัล (ดิจิทัลเลนดิ้ง) ซึ่งเป็นสินเชื่อประเภทใหม่ที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงเงินกู้เพิ่มมากขึ้น บรรเทาปัญหาเงินกู้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง และอาจไม่ได้รับการคุ้มครอง เช่น พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย อาชีพอิสระไม่มีรายได้ประจำ ไม่มีหลักฐานพิสูจน์รายได้ เป็นต้น รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการให้บริการ และบริหารความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถแสดงความเห็นได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. นี้ และคาดว่าจะประกาศใช้หลักเกณฑ์อย่างเป็นทางการได้ภายในเดือน ส.ค. 63
ส่งออกทองพุ่ง 2 แสนล.
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกทองคำของไทย ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 63 (ม.ค.เม.ย.) อยู่ที่ 6,372.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.97 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 350.01% เนื่องจากเป็นการส่งออกไปทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในช่วงที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักลงทุนและประชาชนนส่วนใหญ่หันมาซื้อทองคำเก็บไว้ ในฐานะเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ยอดส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยรวม 4 เดือน มีมูลค่า 8,147.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 114.84% หรือคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 252,714.18 ล้านบาท
กว่า 5 พันรายขอแก้หนี้ โชว์ผลงานช่วยได้ฉลุย
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โครงการคลินิกแก้หนี้สามารถช่วยประชาชนแก้หนี้บัตรไปแล้วกว่า 21,000 ใบ ครอบคลุมลูกหนี้ 4,204 ราย ซึ่งมีหนี้บัตรเฉลี่ยรายละ 5 ใบ มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 3.4 แสนบาท และขณะนี้มีลูกหนี้ที่รอลงนามในสัญญาอีกกว่า 800 ราย เพราะไม่สามารถเดินทางช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา และอีก 1,500 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลครึ่งแรกของปี 63 ตัวเลขผู้เข้าร่วมโครงการเกิน 5,000 ราย
ธสน.ขอเพิ่มทุน 1.5 หมื่นล้านบ.
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารได้ส่งแผนขอเพิ่มทุนให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว โดยจะเพิ่มทุนอีก 15,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีทุนเพิ่มจาก 20,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท สามารถรองรับการปล่อยกู้ตามยุทธศาสตร์ ธนาคารอีก 10 ปีข้างหน้า ตลอดใช้ดูแลผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และนักลงทุนไทย ในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดโควิดสิ้นสุดด้วย
อีซูซุต่อประกันลดค่าอะไหล่
นางปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเข้มงวดโดยขอความร่วมมือจากประชาชนและบริษัทต่างๆ ให้หยุดกิจกรรมและการเดินทางที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคซึ่งอาจส่งผลให้รถของลูกค้าอีซูซุหมดระยะรับประกันในช่วงเวลาดังกล่าวและไม่สามารถนำรถเข้าศูนย์บริการได้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความถึงพอใจสูงสุด บริษัทจึงได้ขยายระยะเวลาการรับประกันเพิ่มอีก 3 เดือนในส่วนนี้ไม่รวมการขยายระยะทางสำหรับ รถอีซูซุทุกประเภทที่หมดระยะเวลาการรับประกันในช่วงระหว่างวันที่ 15 มี.ค-31 พ.ค.63 ทั้งนี้ไม่รวมถึงกรณีของรถที่มีเลขระยะทางเกินกว่าเงื่อนไขการรับประกันเดิม
เผยค้าส่ง-ค้าปลีก ผงกหัวใน 3 เดือน
นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย เปิดเผยการฟื้นตัวของธุรกิจไทยหลังปลดล็อกโควิด-19 ว่า กลุ่มธุรกิจที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะสั้น 3 เดือนต่อจากนี้ ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ที่จำหน่ายของใช้ในชีวิตประจำวัน โรงพยาบาล คลินิก ยารักษาโรค ไอที ไฟฟ้า มีการจ้างงานรวมกัน 4.8 ล้านคน สัดส่วนประมาณ 29.6% และในระยะ 3-6 เดือน ธุรกิจที่ฟื้นตัว ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม การบริการธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง การขนส่งผู้โดยสารสินค้าทางบกทางเรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ พลังงาน มีการจ้างงาน 6.4 ล้านคน สัดส่วน 39.5%
แห่เร่ขายที่ดินเก่าแทนหุ้นกู้
เสริมสภาพคล่องดันโครงการ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในครึ่งปีหลัง จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ บจ. นำที่ดินในมือสำหรับสร้างโครงการใหม่ ออกมาขายมากขึ้น เพื่อนำเงินไปใช้หมุนเวียนในโครงการที่กำลังก่อสร้างและโครงการที่เปิดจองล่วงหน้าไปแล้วซึ่งมีสัดส่วนถึง 50% ของจำนวนที่รอขายปัจจุบัน จากเดิมที่ใช้วิธีหาเงินด้วยการออกหุ้นกู้ แต่เนื่องด้วยผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ปีนี้ไม่มีใครซื้อหรือกล้าลงทุน
จี้รัฐปรับยุทธศาสตร์ลงทุน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องทบทวนยุทธศาสตร์การลงทุน และยุทธศาสตร์ชาติใหม่ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงปี 64 ที่ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ มีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวนไม่น้อยกว่า 13 ล้านคน หรือ 20% ของประชากรทั้งหมดซึ่งจะทำให้แรงงานใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานลดต่ำลง
จ่อขอผ่อนแบน 2 สารพิษอีก
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอฯได้ตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมปัญหาและติดตามผลกระทบทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้บริโภค กรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศให้คลอไพริฟอส และพาราควอต เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามไม่ให้ผลิต การนำเข้า การส่งออก ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอรัฐบาลพิจารณาทบทวนหรือผ่อนปรนอีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ได้ทำหนังสือชี้แจงถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว
'จุรินทร์' ไลฟ์สด ขายผลไม้ 9 มิ.ย.นี้
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 9 มิ.ย. นี้ กรมฯ ได้ร่วมกับแพลตฟอร์มทีมอลล์ ในเครืออาลีบาบาจัดกิจกรรมไลฟ์สด เพื่อโปรโมตการขายสินค้าผลไม้ และอาหารไทยบนเว็บไซต์ Tmall.com ในช่วงเวลา 19.30-20.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนเข้ารับชมไลฟ์สดสูงสุด โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จะเป็นผู้ไลฟ์สดประชาสัมพันธ์ผลไม้ และอาหารไทยผ่านล่ามภาษาจีน ร่วมกับผู้ทรงอิทธิพลของจีน ที่ได้รับความนิยมติด 1 ใน 3 บนแพลตฟอร์มทีมอลล์
ชี้ปรับใหม่จีดีพี-เงินเฟ้อ กนง.สั่ง 'เกาะติด' ค่าเงิน
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง.เตรียมทบทวนประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปี 63 ใหม่ในการประชุม กนง.รอบวันที่ 24 มิ.ย.นี้ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ และดุลบัญชีเดินสะพัดใหม่ หลังจากการประชุม กนง.ครั้งก่อนได้มีความกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นและอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้ติดตามและดูแลสถานการณ์ในตลาดการเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น