วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 07 พ.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน 
ชงแก้ผังเมืองเอื้อศก.'บีซีจี'
เคลียร์ปัญหาห้ามใช้พื้นที่สีเขียว ดันโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อฐานราก
กลุ่มพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท.ชงภาครัฐปรับผังเมืองเอื้อเศรษฐกิจแบบบีซีจี กำจัดปัญหาบางจังหวัดห้ามตั้งโรงงานในพื้นที่สีเขียว หนุนแจ้งเกิดโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เปิดทางมีส่วนร่วมถือหุ้น ลุ้น กกพ.คลอดทีโออาร์รับซื้อควิกวิน 100 เมกะวัตต์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจลดผลกระทบโควิด-19 ระบาด
'ไทยคม'ปลื้มกำไร198ล้าน จับตาโควิดยาวกระทบลูกค้า
นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท พลิกฟื้นขึ้นอย่างมากจากผลขาดทุนสุทธิ ในไตรมาสที่ 1/2562 และไตรมาส 4/2562 จำนวน 33 ล้านบาท และ 1,969 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษ อาทิ ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 238 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว ในไตรมาสที่ 1/2563 บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเป็นจำนวน 105 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติ จำนวน 4 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2562 และ 271 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2562 เนื่องมาจากการลดลงของค่าเสื่อมราคาของดาวเทียม จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 รวมทั้งการด้อยค่าของดาวเทียมดวงอื่นๆ ในปี 2562 และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
คลายล็อกดันราคาน้ำมันดิบขยับ
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกในระหว่างวันที่ 27 เมษายน-5 พฤษภาคม 2563 พบว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศในยุโรป และประเทศต่างๆ ทั่วโลก เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง และต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 18.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 15.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 12.53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
'จุรินทร์'ยิ้มเปิดด่านปาดังเบซาร์ หนุนส่งออกสะดวก-รายได้พุ่ง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีตนได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 เรื่องผ่อนปรนการขนส่งชายแดนว่า ล่าสุดได้รับข่าวน่ายินดีว่ารัฐบาลมาเลเซียได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทราบว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ตัดสินใจอนุญาตให้ประเทศไทยสามารถขนส่งสินค้า เพื่อการส่งออกด้วยวิธีขนส่งทางรถไปขึ้นระบบรางของประเทศมาเลเซีย ผ่านด่านปาดังเบซาร์ได้แล้ว ในสินค้าทุกประเภท รวมถึงการส่งออก ไม้ยางพารา ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดด้วย มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ชูธรรมชาติฟื้นดึงท่องเที่ยว
ททท.ตุนพันเส้นทางรองรับ ประสาน20สมาคมอุ้มธุรกิจ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกสูงมาก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริการ เป็นอุตสาหกรรมแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากโรคระบาดทำให้ทุกคนต้องป้องกันตนเอง ด้วยการงดเว้นการเดินทาง เพื่อทำตามนโยบายของภาครัฐในการหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ ททท.ต้องประเมินวิกฤตที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางพลิกให้เกิดโอกาสขึ้น ซึ่งการที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดและเกิดการจำกัดการเดินทางนั้น ทำให้ต้นทุนทางธรรมชาติของประเทศฟื้นฟูกลับมาดีมากขึ้น จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว โดยหากทรัพยากรทางธรรมชาติกลับมาดีมากกว่าเดิม และมาพร้อมกับความมั่นใจในด้านสุขอนามัย รวมถึงความปลอดภัยทั้งในแง่ทรัพย์สินและชีวิต ซึ่งมองว่าประเทศที่สามารถบริหารจัดการทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติ ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและทรัพย์สินชีวิตไปพร้อมกันได้ เชื่อว่าจะสามารถฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาดีดตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วแน่นอน โดย ททท.ได้เตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ไม่ต่ำกว่า 1 พันแห่ง และวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวไว้แล้ว ซึ่งหากไวรัสคลายตัวใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จะดำเนินการตามแผนได้ทันที
ทุ่ม1.3พันล.รื้อแท็กซี่เวย์ทสภ. ปูคอนกรีตแทนยางมะตอย
นายอนันต์ หวังชิงชัย รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.เตรียมเปิดประกวดราคา (ประมูล) โครงการงานจ้างก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวทางอากาศยานด้วยวัสดุปอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ (เฟส) ที่ 1 พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 3.95 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) วงเงินก่อสร้างประมาณ 1,300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้นผิวในการรองรับเครื่องบิน รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัย และแก้ไขปัญหาเรื่องผิวทางอย่างถาวร ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างรายละเอียดการประมูล คาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ได้ผู้รับจ้างประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน และเริ่มปรับเปลี่ยนพื้นผิวได้ประมาณเดือนตุลาคม 2563 นี้ โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปีครึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น