สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 มี.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

โควิดกระหน่ำเอสเอ็มอี
ขอธพว.ช่วยแก้ปัญหาหนี้ ยื้อเวลาต่อลมธุรกิจเดินหน้า
น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกค้าเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเข้าขอรับมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน และแก้หนี้สินกับธนาคารแล้ว 11,894 ราย คิดเป็นภาระหนี้ 20,469 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว และยังมีลูกค้าแจ้งความต้องการขอวงเงินสินเชื่อใหม่เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องเข้ามาแล้วกว่า 565 ล้านบาท

บริดจสโตนชู 'ค็อกพิท' ขึ้นแท่น
นายธนวัฒน กิตติรัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที. (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รวมธุรกิจซ่อมด่วนหรือฟาสต์ฟิท โดยจะรวมแบรนด์แอค (a.c.t.) เข้ากับค็อกพิทให้เหลือเฉพาะแบรนด์ ค็อกพิทคาดว่าจะดำเนินการแล้วแสร็จภายในปีนี้และทั้งปีจะมีค็อกพิท รวม 320 แห่ง โดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณสาขาละ 1 ล้านบาท เพื่อให้บริการซ่อมด่วนได้ครบวงจรทั้งเรื่อง ยาง เบรก แบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง โช้ค ซ่อมบำรุง นอกจากนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแบรนด์ออโต้บอย ให้เป็นค็อกพิทไปพร้อมๆ กันด้วยจากแผนดังกล่าวคาดว่าภายใน 3 ปีจากนี้จะทำให้ค็อกพิทขึ้นเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจซ่อมด่วน

ปั้นกัญชงป้อนตลาดโลก ผลิตกระเป๋า 'แบรนด์เนม'
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือถึงแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมกัญชงสู่เชิงพาณิชย์ ครั้งที่ 1/63 ว่า การส่งเสริมอุตสาหกรรมกัญชงสู่เชิงพาณิชย์ เป็นอีกเครื่องมือในการเดินหน้าเกษตรอุตสาหกรรม ยกระดับรายได้เกษตรกร จากปัจจุบันมีการปลูกกัญชงทั่วประเทศ 533 ไร่ ใน 8 จังหวัดพื้นที่ราบสูง แต่ผลผลิตส่วนใหญ่ยังใช้เปลือก ชนิดหยาบ ส่วนใหญ่ใช้ในงานหัตถกรรมพื้นบ้าน จึงยังไม่มีการเก็บตัวเลขรายได้ชัดเจน ขณะที่ทั่วโลกปลูกรวมทั้งสิ้น 6.5 ล้านไร่ จำนวนนี้ 70% ปลูกในจีน 25% ปลูกในฝรั่งเศส ที่เหลือปลูกในยุโรป มูลค่าตลาดรวมทั่วโลก ปี 61 อยู่ที่ 119,100 ล้านบาท คาดว่า ภายในปี 68 จะมีมูลค่าสูงถึง 289,200 ล้านบาท หากไทยพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์สำเร็จ จะเข้าไปอยู่ในส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวแน่นอน

ครม.ไฟเขียวยึดงบกลางคืน ส่วนราชการใช้ไม่ทัน 13 มี.ค.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ส่วนราชการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในส่วนของงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้ชะลอไว้ก่อนไม่ว่าจะเป็นรายการที่นายกฯ หรือ ครม. เห็นชอบแล้ว หรือรายการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาก็ตาม รวมทั้งให้ยกเลิกโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นไปแล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในวันที่ 10 มี.ค.นี้ โดยให้คืนเงินทั้งหมดแก่สำนักงบประมาณภายในวันที่ 13 มี.ค.นี้ เพื่อจะได้นำงบส่งคืนไปใช้ในโครงการหรือรายการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และภัยแล้ง หากส่วนราชการมีความจำเป็นต้องใช้งบกลาง กำหนดให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณภายในวันที่ 13 มี.ค.นี้

สั่งจัดสัมมนาในไทย 3 เดือน
กู้วิกฤติศก.หวังเพิ่มรายได้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบมาตรการเร่งรัดให้ส่วนราชการในสังกัดของทุกกระทรวง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และองค์กรมหาชนทุกแห่ง จัดประชุมและสัมมนาภายในประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. 63 เพื่อพยุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ แทนการจัดประชุมและสัมมนาในต่างประเทศเช่นที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังขอให้ทุกส่วนราชการส่งปฏิทินการจัดประชุมและสัมมนาดังกล่าว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อนำไปขยายผลร่วมกับภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป

สั่ง 8 หมื่นโรงงานป้องกันไวรัส
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ลงนามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรม 80,000 แห่งทั่วประเทศ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมหรือนอกโรงงาน โดยผู้ประกอบการต้องจัดให้ผู้ที่ปฏิบัติงานรวมทั้งบุคคลภายนอกดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ทำความสะอาดมือด้วยการล้างด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ กรณีผู้ที่มีอาการไอ จาม ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และให้ดูแลด้านอนามัยในโรงงาน เช่น การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นทางเดินเข้าออกอาคาร ลิฟต์ ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ตรวจเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะต่าง ๆ