วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 ก.พ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จี้รัฐออกนโยบายปั๊มลูก
แก้ปัญหาขาดแรงงานหนัก หลังพบ 'ป.ตรี' ครองโสดพุ่ง
นางศศิวิมล วรุณศิริ ปวีณวัฒน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ศึกษารูปแบบการตัดสินใจแต่งงานและมีลูกของผู้หญิงไทยในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้หญิงไทยที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป มีโอกาสที่จะแต่งงานลดลง 14% เมื่อเทียบกับผู้หญิงไทยที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมหรือต่ำกว่า และกลุ่มนี้จะมีจำนวนลูกที่น้อยกว่ากลุ่มอื่น โดยผู้หญิงไทยที่มีระดับการศึกษาสูงขึ้น 1 ปี จะมีลูกลดลง 10% รวมทั้งขาดแรงจูงใจเรื่องการแต่งงานและการเลี้ยงดูลูกจากภาครัฐ และปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูบุตรที่สูง ทำให้ไทยขาดแคลนกำลังแรงงานได้ในอนาคต และเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มตัว
ผนึกเอกชนโรดโชว์เที่ยวไทย
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า และสมาคมโรงแรมไทย นำผู้ประกอบการกว่า 50 รายจัดงานเอสซีบีเที่ยวไทยไปด้วยกัน มอบส่วนลดสูงสุด 60% ทั้งโรงแรมที่พัก โปรแกรมท่องเที่ยว ร้านอาหาร เพื่อช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศ และเพิ่มยอดขาย หลังได้รับผลกระทบไวรัสโควิด-19 จากก่อนหน้านี้ได้ออกมาตรการพักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือนไปแล้ว
แนะจัดพอร์ตลงทุนใหม่เน้นทำกำไรทองระยะสั้น
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก หรือ จีบีเอส เปิดเผยถึงสถานการณ์ทองคำในช่วงนี้ ว่าถือเป็นจังหวะของการทำกำไรทองคำในระยะสั้น จึงแนะนำนักลงทุนให้จัดพอร์ตการลงทุนในทองคำที่ 30% ลงทุนในหุ้น 20% โดยเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และถือครองเงินสด 50% เนื่องจากกังวลการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัว
ก.ล.ต.เปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ชู 4 ด้านดันสตาร์ทอัพระดมทุน
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (63-65) ว่า ก.ล.ต. จะเน้นให้ความสำคัญกับ 4 ด้าน คือ ยั่งยืน เข้าถึง แข่งได้และเชื่อมโยง และเชื่อถือได้ รองรับการเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนของตลาดทุนที่มีมากขึ้น พร้อมผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มรายได้ระดับปานกลาง และก้าวผ่านความท้าทายจากหลายปัจจัย เช่น การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รวมทั้งสร้างความง่ายในการเข้าถึงแหล่งระดมทุน
ยอดขายม.ค.วูบค่ายรถเฝ้าระวัง
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มียอดขายโดยรวมทั้งสิ้น 71,688 คัน ลดลง 8.2% แยกเป็นยอดขายรถยนต์นั่ง มีจำนวน 30,331 คัน เพิ่มขึ้น 0.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 41,357 คัน ลดลง 13.6% เนื่องจากประชาชนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากประเทศจีน ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะไทยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนมาก และมีความไม่แน่นอนในสถานการณ์การค้าโลกและการแข็งตัวของค่าเงินบาท ที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง
คอนโดฯแห่โละสต๊อกขาย
ถือเงินสดก่อนขายไม่ออก
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยในการอภิปรายเรื่องแนวโน้มภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 63 ว่า ในปี 63 นี้ถือเป็นโอกาสทองของผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม หรือกรณีที่ซื้อแล้วเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะขณะนี้จำนวนคอนโดฯ ในสต๊อกเดิมเหลือค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ประกอบการต้องเตรียมระบายของออกให้ได้มากที่สุด เพื่อให้มีเงินสดอยู่ในมือ ทำให้ต้องแข่งขันกันในเรื่องของราคา จึงส่งผลให้ราคาคอนโดฯ ในปีนี้ มีราคา ลดลง ซึ่งจะทำให้คนในระดับกลางถึงระดับล่างเข้าถึงคอนโดฯ ในราคาที่ไม่แพง และคาดการณ์ว่าในภาพรวมแล้วน่าจะทรงตัวในปีนี้ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกชะลอตัวและจะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ไทย-ตปท.แห่ช้อปอัญมณี ฟุ้งงานบางกอกเจมส์ฉลุย
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (บางกอกเจมส์) ครั้งที่ 65 วันที่ 25-29 ก.พ. 63 ว่า บรรยากาศการจัดงานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 65 ค่อนข้างคึกคักกว่าที่คาดการณ์ไว้หลังจากที่มีเศรษฐีและผู้นำเข้าต่างประเทศที่ลงทะเบียนล่วงหน้า 2,500 คน ส่วนใหญ่ไม่ยกเลิกในการเข้าร่วมงานแม้ว่าในหลายๆ ประเทศได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยต่างชาติที่เข้าร่วมมากที่สุดคืออินเดีย รองลงมาเป็นกลุ่มซีแอลเอ็มวี ตะวันออกกลาง สหรัฐ จีน และยุโรป ดังนั้นคาดว่าตลอดทั้งงานจะมีผู้ร่วมชมงานทั้งคนไทยและต่างประเทศกว่า 10,000 คน ลดลงจากปีก่อนที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 คน
ยอดเปิดบริษัทม.ค.พุ่ง อานิสงส์ช่วยเอสเอ็มอี
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจในเดือน ม.ค. 63 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 6,942 ราย เพิ่มขึ้น 120% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 62 และลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ถือเป็นยอดตั้งใหม่ที่สูง เพราะคนมั่นใจในการทำธุรกิจ และรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในการทำธุรกิจและส่งเสริมด้านเงินทุน โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 16,256 ล้านบาท ธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็นก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคารและร้านอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น