วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 06 ก.พ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ชูไทยฐานผลิตโปรตีนส่งออก
รายงานข่าวจากบริษัท สไปเบอร์ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี ประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่าบริษัทใช้เงินลงทุนเบื้องต้นกว่า 1,900 ล้านบาท ตั้งโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อผลิตโปรตีนชีวภาพ มีกำลังการผลิตปีละหลายร้อยตัน รวมทั้งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภายในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นับเป็นการขยายธุรกิจในต่างประเทศครั้งแรก นอกจากนี้ยังเป็นฐานปฏิบัติการเพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการหมักและผลิต โดยใช้วัตถุดิบจากกากน้ำตาล ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปลายปี 63
กนง.หั่นดอกเบี้ยเหลือ 1%
ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ชาติ หวังกู้เศรษฐกิจไม่ติดหล่ม
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติเอกฉันท์ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1% ต่อปี จากเดิม 1.25% ต่อปี ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในปี 63 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิมและต่ำกว่าระดับศักยภาพมากขึ้นมาก จากการระบาดของไวรัสโคโรนา ความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 และภัยแล้ง ทำให้จำเป็นต้องประสานมาตรการทั้งทางการเงินและการคลัง และหวังว่าจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุนสภาพคล่องและการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลชัดเจนขึ้น
ขายรถปีนี้ไม่ถึงล้านคัน ชี้ปัจจัยลบรุม'ซ้าซ้อน'
นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์รวมปีนี้ว่า น่าจะลดจาก 1.007 ล้านคันมาอยู่ที่ 930,000 คัน เทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจโลก ปัญหาภัยแล้ง การแข็งค่าของเงินบาท และการส่งออก อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แต่ถ้ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ให้เข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็วเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เบาบางลงได้ สำหรับยอดขายรถอีซูซุในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 168,215 คัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 16.7% ด้านการส่งออกอยู่ที่ 140,000 คัน และได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าพอสมควร โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นในปีนี้ในส่วนของบริษัทคาดว่าจะทำได้ดีขึ้น เนื่องจากมีรถอีซูซุ ดี-แมคซ์ รุ่นใหม่ออกมาครบทุกรุ่น ซึ่งจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น แม้ตลาดรวมจะหดตัวก็ตาม
เจนวายแชมป์จ่าย 'วาเลนไทน์'
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าเทศกาลวาเลนไทน์ในปี 63 คาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่าย 3,246.97 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.23% และเป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัว, การระบาดของไวรัสโคโรนา, ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และราคาของขวัญปรับตัวสูงขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณารายละเอียดพบว่าประชาชนมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนที่ 1,814 บาท โดยกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดคือกลุ่มเจนวาย เฉลี่ย 2,205 บาทต่อคน รองลงมาเป็น เจนเอ็กซ์ 1,766 บาท โดยของขวัญที่ต้องการจากคู่รักมากที่สุดคือการบอกรัก, ของขวัญ, พาไปรับประทานอาหาร, ดอกไม้, ช็อกโกแลต เป็นต้น ซึ่งในส่วนของดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของวาเลนไทน์พบว่าดอกกุหลาบได้รับความนิยมสูงสุด
บี้ออมสินแก้หนข้าราชการ
ตะลึงมีบัตรเครดิต 9 ใบ เพิ่มช่องทำกินชาวบ้าน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างเดินทางมอบนโยบายแก่ธนาคารออมสิน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากกำชับให้ธนาคารออมสินช่วยเร่งแก้ปัญหาหนี้สินให้กับกลุ่มข้าราชการอย่างจริงจัง เพราะเรื่องหนี้คนไทยมีสั่งสมมานาน บางคนมีภาระมาก และแทบไม่มีทางใช้คืนได้เลย โดยออมสินต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะช่วยได้อย่างไรให้สามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง แต่ทุกอย่างต้องดำเนินการภายใต้กรอบและเกณฑ์ที่เหมาะสม
แบงก์หั่นจีดีพีโตแค่ 2.1%
รายงานข่าวจากภาคเอกชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนและสถาบันการเงินหลายแห่งต่างออกมาปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ในปี 63 ลงเหลือไม่เกิน 2.1-2.2% จากที่เคยคาดการณ์กันไว้ที่ระดับ 2.7-2.8% หลังจากได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยว การส่งออก ความล่าช้าของพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 รวมถึงปัญหา ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกร
จี้รัฐออก 5 มาตรการทำทันที
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย ว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอด่วน 5 ข้อ ให้ภาครัฐนำไปพิจารณา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่ายประชาชน และเพิ่มเงินหมุนเวียนของภาคเอกชน ถ้าเป็นไปได้ขอให้มีผลทันทีภายในเดือนนี้ โดยขอให้ลดค่าไฟฟ้า 5% จากยอดเรียกเก็บให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ระยะเวลา 6 เดือน ยกเว้นการจ่ายประกันสังคมของลูกจ้างทั้งหมด และในส่วนของเอสเอ็มอี เป็นเวลา 6 เดือน
ท่องเที่ยวยื่นหนังสือบิ๊กตู่ หาทางช่วย 'เอสเอ็มอี' เพิ่ม
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยทั่วประเทศไทย เพื่อประเมินผลกระทบและสรุปแนวทางการแก้ปัญหาจากเชื้อไวรัสโคโรนาและปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีภายใน 7 วันนี้ เพิ่อขอให้แก้เงื่อนไขมาตรการการเงินเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจท่องเที่ยว ที่ครม.เห็นชอบเมื่อวันที่ 4 ก.พ. เพราะมีข้อจำกัดมากโดยเฉพาะการระดมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารรัฐวงเงิน 1.25 แสนล้านบาท
สมอ.ขีดเส้น29มี.ค. จยย.ใหม่ต้อง'ยูโร4'
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังเชิญผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์กว่า 40 ราย เช่น ฮอนด้า ยามาฮ่า คาวาซากิ ซูซูกิ ไทเกอร์ ชี้แจงทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมในการยื่นขอ มอก. 2915-2561 รถจักรยานยนต์เฉพาะด้านความปลอดภัย-สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับยูโร 4 ว่า มอก. ใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 63 เพราะฉะนั้นรถจักรยานยนต์ใหม่ทุกคัน ต้องได้ มอก. เพื่อช่วยแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นพิษ ซึ่งจากการสอบถามผู้ประกอบการแจ้งว่า มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1,500-2,000 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น