สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
แบงก์รัฐ-เอกชนเมินควบรวม ชี้ไม่จำเป็น/แข็งแกร่งพอแข่งขันได้
แบงก์รัฐ-แบงก์เอกชนประสานเสียง ไม่มีแผนควบรวมกิจการ เผยแข็งแกร่งพอแข่งขันได้ด้วยตัวเอง ชี้เป็นเรื่องดีเพิ่มไซซ์ธนาคารใหญ่ขึ้น แต่จังหวะยังไม่ได้ เหตุทุกธนาคารมุ่งสู่การทรานส์ฟอร์เมชั่น
แบงก์รัฐ-แบงก์เอกชนประสานเสียง ไม่มีแผนควบรวมกิจการ เผยแข็งแกร่งพอแข่งขันได้ด้วยตัวเอง ชี้เป็นเรื่องดีเพิ่มไซซ์ธนาคารใหญ่ขึ้น แต่จังหวะยังไม่ได้ เหตุทุกธนาคารมุ่งสู่การทรานส์ฟอร์เมชั่น
'เอสซีจี'โดนพิษบาทแข็งกำไรหด มั่นใจแค่ระยะสั้นคงเป้าโต5-6%
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2561 ว่า ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทค่อนข้างมาก ทั้งจากรายได้และกำไร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31 บาท/เหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้น 10% หรือประมาณ 3.6 บาท/เหรียญ เทียบไตรมาส 1/2560 ค่าเงินอยู่ที่ 34-35 บาท/เหรียญ ส่งผลมีกำไร 12,406 ล้านบาท ลดลง 1% จากไตรมาส 4/2560 แต่ลดลง 29% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากค่าเงินบาทเฉลี่ย 31 บาท/เหรียญ แข็งค่าขึ้น 10% จากไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 34.35 บาท/เหรียญ แม้ว่ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 118,250 ล้านบาทก็ตาม
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2561 ว่า ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทค่อนข้างมาก ทั้งจากรายได้และกำไร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31 บาท/เหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้น 10% หรือประมาณ 3.6 บาท/เหรียญ เทียบไตรมาส 1/2560 ค่าเงินอยู่ที่ 34-35 บาท/เหรียญ ส่งผลมีกำไร 12,406 ล้านบาท ลดลง 1% จากไตรมาส 4/2560 แต่ลดลง 29% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากค่าเงินบาทเฉลี่ย 31 บาท/เหรียญ แข็งค่าขึ้น 10% จากไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 34.35 บาท/เหรียญ แม้ว่ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 118,250 ล้านบาทก็ตาม
ฝรั่งโยกเงินลงทุนพันธบัตรมะกัน รับดบ.งาม3%เพิ่มขึ้นในรอบ4ปี ดัชนีหุ้นไทยร่วงจิ๊บๆ แค่จิตวิทยา
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภาวะหุ้นว่า ดัชนีตลาดหุ้นร่วงในแดนลบทันทีที่เปิดตลาด สอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ปรับลดลง 1.74% เป็นผลจากผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐ ที่ปรับตัว ขึ้นถึง 3% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยตลอดทั้งวันดัชนีอยู่ในแดนลบ โดยดัชนีสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 1,787 จุด ลดลง 1.20 จุด และดัชนีต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 1,772.35 จุด ลดลง 15.85 จุด ปิดตลาดที่ 1,779.52 จุด ลดลง 8.68 จุด หรือลดลง 0.49% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65,018.58 จุด โดยสถาบันในประเทศ และนักลงทุน ต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,752.06 ล้านบาท และ 1,312.71 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 4,951.14 ล้านบาท และ 113.62 ล้านบาท ตามลำดับ
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภาวะหุ้นว่า ดัชนีตลาดหุ้นร่วงในแดนลบทันทีที่เปิดตลาด สอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ปรับลดลง 1.74% เป็นผลจากผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐ ที่ปรับตัว ขึ้นถึง 3% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยตลอดทั้งวันดัชนีอยู่ในแดนลบ โดยดัชนีสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 1,787 จุด ลดลง 1.20 จุด และดัชนีต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 1,772.35 จุด ลดลง 15.85 จุด ปิดตลาดที่ 1,779.52 จุด ลดลง 8.68 จุด หรือลดลง 0.49% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65,018.58 จุด โดยสถาบันในประเทศ และนักลงทุน ต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,752.06 ล้านบาท และ 1,312.71 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 4,951.14 ล้านบาท และ 113.62 ล้านบาท ตามลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น