วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 09 ก.พ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
กบง.คาดปีนี้ไฟพีก3.1หมื่นเมกฯ คุมอาคาร9ประเภทอนุรักษ์พลังงาน เอาจริงถ้าไม่ปฏิบัติก็ไม่อนุมัติก่อสร้าง
กบง.คาดปีนี้ใช้ไฟสูงสุดที่ 3.1 หมื่นเมกะวัตต์ เผยกำลังปรับแผนพีดีพีให้สอดรับเทคโนโลยีนโยบายรัฐ เตรียมบังคับอาคาร 9 ประเภทออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงาน
เอ็กซิมแบงก์บุกต่อซีแอลเอ็มวี ตั้งเป้าสินเชื่อคงค้างปีนี้แสนล.
นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมาปล่อยสินเชื่อใหม่ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายสินเชื่อคงค้างของธนาคารเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท หรือเติบโต 9% จากปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 9.1 หมื่นล้านบาท หรือโต 11% คาดว่ากำไรสุทธิโต 4-5% หรือคาดว่าจะมีกำไรกว่า 1.4 พันล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 1,360 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.3% ส่วนยอดรับประกันการส่งออกและความเสี่ยงลงทุนตั้งเป้าหมายการดำเนินการปีนี้จะมียอดสะสมรวม 8.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 6.59 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะมีระดับหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ 3.57%
ก.ล.ต.ชี้ต้องมีเกณฑ์คุมไอซีโอ ป้องนักลงทุน-คาดมี.ค.น่าจะคลอด
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.เตรียมเสนอผลการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการกำกับดูแลการระดมทุนด้วยเหรียญดิจิทัล (ไอซีโอ) ที่เป็นหลักทรัพย์ต่อคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางกำกับดูแลภายในเดือนมีนาคมนี้ ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.ยังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและความเป็นไปได้ต่างๆ สำหรับการวางแนวทางดูแลเงินสกุลดิจิทัล (คริปโตเคอเรนซี่) เพื่อเสนอต่อคณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ ก.ล.ต. ต่อไปภายใน 1 เดือน
'เอสซีจีโลจิสติกส์'ตั้งเป้าโต10%เพิ่มบริการใหม่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า มีแผนผลักดันการเติบโตของการให้บริการด้านโลจิสติกส์ด้วย 6 กลยุทธ์คือ 1.เปิดการบริการแบบวัน สต๊อป เซอร์วิส 2.ขยายธุรกิจไปยังประเทศในแถบทวีปเอเชีย อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย และจีน 3.มีเครือข่ายขนส่งสินค้า คลังสินค้า ทั้งทางบก และทางน้ำ 4.ขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่เติบโตปีละกว่า 20% 5.พัฒนาแอพพลิเคชั่นติดตามสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง และ 6.พัฒนาทักษะฝีมือ แรงงานด้านการขับรถส่งสินค้า ให้มีมาตรฐาน และเน้นความปลอดภัย โดยตั้งเป้ารายได้รวมที่ 17,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 16,000 ล้านบาท และมีแผนใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขา ทั้งรูปแบบบีทูบี และรูปแบบบีทูซี นอกจากนี้ได้ร่วมกับกลุ่มดิจิทัลสตาร์ตอัพเชื่อมโยงผู้ประกอบการและเครือข่ายรถบรรทุกเพื่อให้บริการรถบรรทุกและเรือส่งสินค้าเพื่อจัดส่งให้รวดเร็วขึ้น และมีแผนจะเปิดบริการใหม่เพื่อรองรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม อาทิ บริการขนส่งสัมภาระที่เป็นอุปกรณ์กีฬา และบริการฟาร์มทูเทเบิล โดยเจาะกลุ่มเกษตรกร โอท็อป และเอสเอ็มอี ในการใช้นวัตกรรมควบคุมอุณหภูมิการขนส่งอาหาร และสินค้าเกษตร ให้ถึงมือผู้รับอย่างสดใหม่ และเพื่อลดต้นทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น