สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
ชี้บาทแข็งฉุดส่งออก-สูญแสนล. ทำนายปี'61โป๊กสุดรอบ5ปีที่31บ. หวั่นพิษปรับ'ค่าแรง'ธุรกิจกระอัก
ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศเผยปี'61 เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าที่ 31.8 บาท ทำสถิติแข็งค่าสุดรอบ 5 ปี กระทบส่งออกหดตัว 1.6% สูญรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท จี้คลัง-ธปท.ดูแลด่วน ชี้ปรับค่าแรงกระทบธุรกิจ ขนาดกลางหนัก แนะรัฐออกมาตรการเยียวยา-ช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำ
ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศเผยปี'61 เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าที่ 31.8 บาท ทำสถิติแข็งค่าสุดรอบ 5 ปี กระทบส่งออกหดตัว 1.6% สูญรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท จี้คลัง-ธปท.ดูแลด่วน ชี้ปรับค่าแรงกระทบธุรกิจ ขนาดกลางหนัก แนะรัฐออกมาตรการเยียวยา-ช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำ
'มาดามแป้ง'นำเมืองไทยฯลุยงานรัฐ
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2561 บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภทมากขึ้น ในด้านประกันภัยรถยนต์เน้นแบบประกัน 2+ และ 3+ เพิ่มความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายของรถที่เกิดจากภัยธรรมชาติ จากเดิมคุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และพัฒนาให้มีประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองส่วนเพิ่มจากประกันรถยนต์ปกติ โดยลูกค้าเลือกซื้อที่ต้องการเองโดยไม่ถูกบังคับแบบแพคเกจ รวมถึงประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ และการ รับงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐด้วย ตั้งเป้า 2,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่รับประกันภัยก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง และตั้งเป้าเบี้ยประกันรับรวม 13,500 ล้านบาท เติบโต 10% จากสัดส่วนเบี้ยรับประกันรถยนต์ 52% และเบี้ยรับประกันที่ไม่ใช่รถยนต์ 48%
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2561 บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภทมากขึ้น ในด้านประกันภัยรถยนต์เน้นแบบประกัน 2+ และ 3+ เพิ่มความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายของรถที่เกิดจากภัยธรรมชาติ จากเดิมคุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และพัฒนาให้มีประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองส่วนเพิ่มจากประกันรถยนต์ปกติ โดยลูกค้าเลือกซื้อที่ต้องการเองโดยไม่ถูกบังคับแบบแพคเกจ รวมถึงประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ และการ รับงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐด้วย ตั้งเป้า 2,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่รับประกันภัยก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง และตั้งเป้าเบี้ยประกันรับรวม 13,500 ล้านบาท เติบโต 10% จากสัดส่วนเบี้ยรับประกันรถยนต์ 52% และเบี้ยรับประกันที่ไม่ใช่รถยนต์ 48%
เปิด'เออีซี'ไม่เอื้อเกษตรกรไทย ทีดีอาร์ไอแนะทุกฝ่ายปรับตัว รับมืออาเซียนใช้แผนปกป้อง
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานสัมมนาแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตรเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จัดโดยทีดีอาร์ไอ ว่า ผลวิจัยในโครงการศึกษาแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตร เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทย พบว่า การเปิดเสรีการค้าตามเออีซี ส่งผลต่อภาคเกษตรไทยต่ำ เพราะแม้อาเซียน จะมีข้อตกลงในเรื่องต่างๆ แต่ไม่มีกลไกบังคับให้ทำตาม แต่ละประเทศต่างปกป้องภาคเกษตรของตนเอง รวมทั้งไทย ความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศถูกกำหนด โดยเงื่อนไขสำคัญของแต่ละประเทศ เช่น ทรัพยากร นโยบายรัฐ เทคโนโลยี และความสามารถของเกษตรกร เป็นต้น
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานสัมมนาแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตรเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จัดโดยทีดีอาร์ไอ ว่า ผลวิจัยในโครงการศึกษาแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตร เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทย พบว่า การเปิดเสรีการค้าตามเออีซี ส่งผลต่อภาคเกษตรไทยต่ำ เพราะแม้อาเซียน จะมีข้อตกลงในเรื่องต่างๆ แต่ไม่มีกลไกบังคับให้ทำตาม แต่ละประเทศต่างปกป้องภาคเกษตรของตนเอง รวมทั้งไทย ความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศถูกกำหนด โดยเงื่อนไขสำคัญของแต่ละประเทศ เช่น ทรัพยากร นโยบายรัฐ เทคโนโลยี และความสามารถของเกษตรกร เป็นต้น
สแตนดาร์ดฯจับตาเลือกตั้งไทยชี้กิจกรรมพรรคกระตุ้นยอดค้า
นายทิม ลีฬหะพันธ์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำประเทศไทย ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ปี 2561 ไทยจีดีพีขยายตัว 4.3% แรงหนุนจากการเดินหน้าจัดเลือกตั้งช่วงปลายปี ต้องติดตามไตรมาส 2 ออกกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. และคัดเลือกส.ว.หากกฎหมายผ่าน จะเห็นพรรคการเมืองเริ่มมีกิจกรรมในไตรมาส 3 และจัดการเลือกตั้งไตรมาส 4 ได้ จะช่วยผลักดันการบริโภคปีนี้ดีขึ้น 4-5% รวมถึงการส่งออกคาดโต 6-7% ส่วนลงทุนเอกชนคาดใช้เวลาอีก 1 ปี รวมถึงแรงกระตุ้นจากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐ 20 โครงการ ใช้เวลา 7 ปี มูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้าน คิดเป็น % ของจีดีพี และการ ผลักดันลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะที่การท่องเที่ยวยังโตได้ต่อเนื่อง
นายทิม ลีฬหะพันธ์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำประเทศไทย ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ปี 2561 ไทยจีดีพีขยายตัว 4.3% แรงหนุนจากการเดินหน้าจัดเลือกตั้งช่วงปลายปี ต้องติดตามไตรมาส 2 ออกกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. และคัดเลือกส.ว.หากกฎหมายผ่าน จะเห็นพรรคการเมืองเริ่มมีกิจกรรมในไตรมาส 3 และจัดการเลือกตั้งไตรมาส 4 ได้ จะช่วยผลักดันการบริโภคปีนี้ดีขึ้น 4-5% รวมถึงการส่งออกคาดโต 6-7% ส่วนลงทุนเอกชนคาดใช้เวลาอีก 1 ปี รวมถึงแรงกระตุ้นจากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐ 20 โครงการ ใช้เวลา 7 ปี มูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้าน คิดเป็น % ของจีดีพี และการ ผลักดันลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะที่การท่องเที่ยวยังโตได้ต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น