สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
หนุนรายย่อยเข้าถึงเงิน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างผลักดันแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ปี เรื่องสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์และสร้างความเท่าเทียม ทั่วถึง โดยที่ผ่านมาระบบภาคการเงินให้ความสำคัญกับการเข้าถึงการให้บริการประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการมีพร้อมเพย์ ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านชำระเงิน เช่น โครงการภาครัฐมีผู้ใช้แล้วกว่า 40 ล้านคน และร้านค้า 1.6 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ อย่างโครงการคนละครึ่ง เป็นต้น
ขอนิรโทษ 'นอมินี' ซื้อบ้าน
ใช้เกณฑ์คอนโดฯ คุมตปท.
นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ เตรียมจัดทำหนังสือปกขาว เพื่อเสนอรัฐบาลในเรื่องการนิรโทษให้กับนิติบุคคลนามแฝงหรือบรรดานอมินี ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยใช้บุคคลอื่น อาทิ ภรรยาที่เป็นคนไทย ในการซื้อบ้านทุกระดับ เพื่อเปิดช่องให้นอมินีมาโอนซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบถูกต้อง และหลังจากนั้นอาจต้องมากำหนดกฎเกณฑ์ให้ชัดเจน อาทิ แบ่งสัดส่วนการถือครองซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขเดียวกันคอนโดมิเนียม หรือการกำหนดระยะเวลาที่แน่ชัดในการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ เช่น ภายใน 2-3 ปี ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องในลำดับถัดไป
แฉโรงสกัดกดราคาผลปาล์ม
ชี้มีแต่ขึ้นกับขึ้นขู่เจอ 'คุก 7 ปี'
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ร่วมกับเกษตรกร โรงสกัด โรงกลั่น ผู้ประกอบการคลังรับฝาก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับลดลงในเดือน ธ.ค.65 หลังพบว่า โรงสกัดได้ปรับราคารับซื้อลงโดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้มีฝนตกชุกทำให้ผลปาล์มสุกช้า รวมทั้งผลปาล์มที่เข้าสู่ตลาดมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันน้อยกว่า 18% ประกอบใกล้ช่วงสิ้นปีเกษตรกรชาวสวนปาล์มจะเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่าย เพื่อหาเงินไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่
เคาะแผนท่องเที่ยวฯ 5 ปี
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบและประกาศใช้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ระหว่างปี 66-70 รวม 5 ปี เพื่อใช้เป็นแนวทางจัดทำแผนงานเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ ระดับพื้นที่และท้องถิ่น ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเป้าหมาย คือ การท่องเที่ยวไทยต้องเข้มแข็งและสมดุล เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นและมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวคุณค่าสูง และการบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
'บิ๊กตู่' ถก 4 หน่วยงาน เร่งจัดงบประมาณ 67
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ม.ค.นี้ นายกฯ และรมว.กลาโหม จะเรียกประชุม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจเพื่อกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 วงเงินรายจ่ายรวม 3.35 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบประมาณขาดดุล 5.93 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณ 3% เป็นไปตามทิศทางกรอบการคลังระยะปานกลาง ที่ต้องการทำให้งบประมาณไปสู่การสมดุลในที่สุดงบประมาณปี 67 ประกอบด้วยรายได้ของรัฐบาล 2.757 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลรวม 3.357 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% มีหนี้สาธารณะคงค้าง 1.18 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.35% ต่อจีดีพี
ยกเครื่อง 'ภาษีสิ่งแวดล้อม'
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในปี 66 กรมสรรพสามิตมีนโยบายเดินหน้าการเป็นผู้นำการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรืออีเอสจี โดยกำลังศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อม 4 เรื่องหลัก คือ ภาษีคาร์บอนที่อยู่ระหว่างศึกษาตัวอย่างจากสิงคโปร์ชาติเดียวในอาเซียนที่เริ่มต้นเก็บภาษีคาร์บอน โดยมี 2 รูปแบบ คือ การเก็บบนผลิตภัณฑ์ เป็นวิธีที่เหมาะกับไทยเพราะเก็บตรงจากตัวสินค้าหากปล่อยคาร์บอนฯ สูง ก็เสียภาษีมาก ส่วนอีกรูปแบบคือเก็บจากกระบวนการผลิต โดยจะต้องมีหน่วยวัดการปล่อยคาร์บอนฯ และเก็บภาษีตามปริมาณที่ปล่อย ซึ่งจำเป็นต้องร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำงานร่วมกันด้วย
ธุรกิจเชื่อรายได้โต กังวลขาดแรงงาน
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความชื่อมั่นทางธุรกิจเฉพาะกิจ พบว่าในปี 66 ธุรกิจส่วนใหญ่ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 5-10% จากปีก่อน ยกเว้นภาคการท่องเที่ยวที่ครึ่งหนึ่งเห็นว่ารายได้เติบโตสูงกว่า 10% แต่มีธุรกิจบางส่วนที่ตั้งเป้าหมายยอดขายต่ำกว่าปี 65 เช่นการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คลังสินค้าและสาธารณูปโภค โดยปี 66 ภาคธุรกิจยังกังวลจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนแรงงานและเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว
อวดเงินกู้ 100 โครงการ มีมูลค่าศก.เกือบ 3 ล้านล.
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. รับทราบการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท รอบ 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.65) ทั้งหมด 100 โครงการ ซึ่ง ครม. อนุมัติไปทั้งสิ้น 8.98 แสนล้านบาท มีผลเบิกจ่าย 8.77 แสนล้านบาท คิดเป็น 97.73% ของกรอบวงเงิน ถือว่ามีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 2.9 ล้านล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ 5.62 แสนล้านบาท เกิดความคุ้มค่า 3.55 เท่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น