วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 พ.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

จ่อฟันแพลตฟอร์มออนไลน์
ชื่อดังโพสต์ขายสินค้าห่วย พบผิดโทษหนักจำคุก-ปรับ
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ได้เปิดช่องทางร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊ก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สมอ. https://th-th.facebook.com/tisiofficial/ ตลอด 24 ชม. และเว็บไซต์ www.tisi.go.th กรณีผู้บริโภคซื้อสินค้าแล้วไม่ได้มาตรฐาน ล่าสุดพบว่า มีผู้บริโภคร้องเรียนซื้อสินค้าเครื่องหรี่ไฟ (ดิมเมอร์) รุ่น Suntec STD-1600 บนแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ โดยไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. ซึ่งสินค้าดังกล่าวอยู่ในข่ายสินค้าควบคุมตาม มอก.1955-2551 จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ พบว่า มีผู้จำหน่าย 6 ราย ที่จำหน่ายเครื่องหรี่ไฟที่ไม่แสดงเครื่องหมาย มอก.

รายได้โฆษณา 4 เดือนโต 3%
รายงานข่าวจาก บริษัท เอจีบี นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยมูลค่าการใช้เงินโฆษณาช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย.64) ว่า เพิ่มขึ้น 3% โดยมีมูลค่าที่ 36,162 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 ซึ่งสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนสูงสุดอยู่ที่ 59% ขณะที่ภาพรวมการใช้เงินโฆษณาเฉพาะเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากผู้ประกอบการวางแผนการใช้เงินโฆษณาไว้ล่วงหน้า ทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ และจัดกิจกรรมต่างๆ ก่อนเกิดโควิด-19 รอบ 3

เล็งตั้งจุดระดมฉีดวัคซีน ใน 'นิคมอุตฯ' ทั่วประเทศ
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศเป็นศูนย์กลางการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารกระทรวงฯ ผู้ว่าการ กนอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไป จะประชุมอย่างเป็นทางการถึงแนวทางการดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนนัดแรกในวันที่ 17 พ.ค.64 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ในการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ประชาชนทั่วประเทศตามความสมัครใจ

จีน-สิงคโปร์นำร่องอาร์เซ็ป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้การจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) 15 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย อาเซียน 10 ประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีความก้าวหน้าไปมาก โดยล่าสุดสิงคโปร์ และจีน ได้ยื่นให้สัตยาบันความตกลงอาร์เซ็ป ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนแล้ว ส่วนประเทศสมาชิกที่เหลือ รวมทั้งไทย กำลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินกระบวนการภายในเพื่อให้สัตยาบันความตกลง ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศ และสมาชิกนอกอาเซียนอย่างน้อย 3 ประเทศ ได้ให้สัตยาบันอาร์เซ็ปครบ ก็จะส่งผลให้ความตกลงมีผลใช้บังคับหลังจากนั้น 60 วันทันที ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะต้องดำเนินการให้ทันภายในสิ้นปีนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น