วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 27 ส.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
สมอ.คุมเข้มมาตรฐานเสื้อกาวน์
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสมอ.ว่า ได้เห็นชอบมาตรฐานเสื้อกาวน์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ใช้สวมใส่ เพื่อปฏิบัติงานที่มีโอกาสสัมผัสเลือดของเหลวในร่างกายต่างๆ และวัสดุติดเชื้อ ครอบคลุมทั้งชนิดใช้ครั้งเดียวและชนิดใช้ซ้ำ สำหรับป้องกันหรือลดการปนเปื้อนของสารละลาย สารคัดหลั่ง เลือด หรือเชื้อโรคระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
โชว์ 2.2 ล้านล้านบาทช่วยโควิด
ปรีดี-ภากรกล่อมมั่นใจไทย
นายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง เปิดเผยในงานไทยแลนด์ โฟกัส 2020 แก่นักลงทุนต่างชาติ ว่ายืนยันว่าผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากสถานการณ์โควิดที่มีต่อไทยได้ผ่านพ้นไปแล้วในไตรมาสสองที่ผ่านมา และจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยในปี 64 คาดว่าเศรษฐกิจหรือ จีดีพี จะกลับมาขยายตัวได้ 4-5% ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัว พร้อมทั้งยังมีเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศอีกด้วย
อพท.ลุ้นเชียงคาน-ในเวียง ติดท็อป 100 ท่องเที่ยวโลก
นายชูวิทย์ มิตรชอบ รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า ในปี 63 อพท. ได้เตรียมส่งแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ 2 แหล่ง คือเทศบาล ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย และ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน เพื่อเข้าชิงรางวัลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน หรือซัสเทนนาเบิล เดสทิเนชั่น ท็อป 100 ภายในปี 65 โดยการจัดอันดับนี้ถือเป็นตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมที่สุดถึงความสำเร็จจากผลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน
พิษไวรัสเพิ่มฟรีแลนซ์ ดันทำงานที่บ้าน 20%
น.ส.ภิรตา ภักดีสัตยพงศ์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษาบริษัท พีดับเบิ้ลยูซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ได้ประเมินว่ามีบริษัทประมาณ 20% ของบริษัทในไทยทั้งหมด มีนโยบายชัดเจนให้ทำงานจากที่บ้านได้เป็นการถาวร หลังจากเกิดไวรัสโควิด-19 เพื่อดูแลความปลอดภัยของพนักงาน และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานเช่น ค่าเช่าสำนักงาน ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสำนักงาน และหลายองค์กรใช้วิธีผสมผสานให้พนักงานสามารถเลือกทำงานที่บ้านหรือเข้าออฟฟิศเพื่อประชุม เพราะการทำงานอยู่ที่บ้านเป็นเวลานานอาจทำให้เครียด และไม่สามารถสร้างสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวได้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า พนักงานส่วนใหญ่ชอบทำงานที่บ้านอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น