วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 ส.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
ปิ๊งดึงทูตตปท.ล่องเจ้าพระยา
เร่งกระตุ้น 'นักท่องเที่ยว' หวังช่วยชุบชิวิตธุรกิจเรือ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งไปหาแนวทางหรือมาตรการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวทางเรือ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวคนไทยมาใช้บริการมากขึ้น พร้อมเชิญทูตประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่อยู่ในไทยประมาณ 350 คน มาล่องเรือท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบธุรกิจเรือท่องเที่ยวทางแม่น้ำเจ้าพระยาต้องหยุดให้บริการจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนไม่มีรายได้เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ตะลึงเงินฝาก 15 ล้านล้านบ. โบรกคาดไหลเข้าตลาดทุน
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในเดือนส.ค.นี้ ถือว่าอยู่ในภาวะต้นร้าย-ปลายดี โดยในช่วงต้นเดือน ตลาดยังต้องเผชิญกับรอยต่อจากหลายเรื่องที่เป็นผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ในไตรมาสแรก อาทิ ภายในวันที่ 14 ส.ค. 63 บริษัทจดทะเบียนต้องประกาศผลประกอบการไตรมาสสองทั้งหมด ซึ่งเห็นได้ว่าลดลงอย่างรุนแรงของกำไรสุทธิโดยรวม และสิ่งที่ตามมา คือการปรับลดประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น
อุ้มอุตฯ การแพทย์ผงาดโลก
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทย เข้มข้นขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากล่าสุดคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมไทย และสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ของไทยสู่อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ถือเป็นครั้งแรกในการเริ่มต้นพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล ซึ่งมีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และต้องการใช้งานจริง และภาคเอกชน จะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการแพทย์ รองรับความต้องการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ที่ไม่สามารถนำเข้าจากต่างประเทศ จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทั่วโลก
เผยแบงก์รุกดิจิทัลเวลธ์ เสริม 'มั่งคั่ง' ด้วยมือถือ
นายตัน คีท จิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารมีแผนกลยุทธ์ อยู่ระหว่างพัฒนาให้ธนาคารเป็นผู้นำด้านที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้า โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายบริหารเงินที่อยู่ภายใต้การจัดการ (เอยูเอ็ม) ระดับ 3 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเน้นการลงทุนแบบการนำหลายกองทุนมาคัดสรรรวมกัน หรือโอเพ่น อาคิเทคเจอร์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการที่หลากหลาย ซึ่งมี 8 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ด้วยกัน ซึ่งครอบคลุมส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างมาก
จยย.-แท็กซี่หันขายสลากฯ
ชี้ต้องการสูงดันราคาแพงยับ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์ฯ ประเมินว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 63 ถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 64 ผู้ประกอบการมีแนวโน้มปลดคนงาน 1-2 ล้านคน จากผลกระทบการระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้ธุรกิจจำนวนมากประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องและยอดขายที่ลดลง ดังนั้นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบใช้ยาแรงในช่วงที่เหลือของปี ด้วยการใช้งบประมาณอย่างน้อย 4-6 แสนล้านบาท ทั้งที่เป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจ งบขาดดุลงบประมาณ งบค้างท่อ เป็นต้น เพื่อพยุงไม่ให้ธุรกิจต้องปิดกิจการหรือต้องปลดคนงานมากขึ้น
แฉรง.เหม็นเสียงดังมีฝุ่น
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ช่วง 7 เดือนของปี 63 หรือม.ค.-ก.ค. มีประชาชนในกรุงเทพฯ ได้ร้องเรียนสถานประกอบการมายังกรอ. 90 ครั้ง ลดลง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นโรงงานปล่อยกลิ่นเหม็น 48 เรื่อง, เสียงดัง 52 เรื่อง, ฝุ่น 36 เรื่อง, ไอสารเคมี 27 เรื่อง, โรงงานเถื่อน 27 เรื่อง, ปล่อยน้ำเสีย 21 เรื่อง, สั่นสะเทือน 19 เรื่อง, ควัน 15 เรื่อง, กากของเสีย 17 เรื่อง, ทำงานกลางคืน 14 เรื่อง และขวางการจราจร 10 เรื่อง และอื่นๆ
ชงลงนาม 'อาร์เซ็ป' เวทีเวียดนามพ.ย.นี้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.นี้ กรมเตรียมเสนอให้ที่ประชุมครม. พิจารณาเห็นชอบให้ไทยลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ที่มีสมาชิกประกอบด้วย อาเซียน และคู่ เจรจาคือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เนื่องจากการขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายของความตกลงทั้ง 20 บทเสร็จอย่างสมบูรณ์แล้ว คงเหลือเพียงประเด็นคงค้างในเรื่องการเปิดตลาดอีกเล็กน้อย และพร้อมจะลงนามร่วมกันตามเป้าหมายภายในเดือน พ.ย.นี้ ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ที่ประเทศเวียดนาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น