วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 30 มิ.ย. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน 
ตั้งทีมแก้ปมโซลาร์ปชช.แป้ก
'สนธิรัตน์'ถกคปพ.ขอ60วันดัน50เมก 'รสนา'ชี้หักลบหน่วยอัตโนมัติจูงใจ
'สนธิรัตน์'ถก คปพ.ตั้งคณะทำงานร่วมเดินหน้ารื้อเกณฑ์โซลาร์ภาคประชาชนขับเคลื่อนใน 60 วัน ตั้งเป้า 50 เมกะวัตต์ หลังโครงการเปิดมาแล้วแต่มีผู้เสนอขายไฟ 1.8 เมกะวัตต์ พร้อมลุ้นพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 เข้า ครม. 30 มิ.ย.เดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน 'รสนา'ชี้ระบบหักลบกลบหน่วยอัตโนมัติจากไฟฟ้าที่ผลิตได้เหมาะสมแต่ติดปัญหาต้องจ่ายแวต
คาดเงินบาทสัปดาห์นี้แข็งค่า ทองพุ่งลุ้นทุบสถิติแบบปี'54
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ต้องติดตามทั้งการระบาดของไวรัส ความคืบหน้าอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) การออกกฎหมายความมั่นคงของฮ่องกง และตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ นอกจากนี้ต้องติดตามความเคลื่อนไหวตลาดทุนไทยเนื่องจากการค้าและการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว และสัปดาห์นี้ถ้าตลาดเริ่มคลายความกังวลกับโคโรนาไวรัส และกลับมาติดตามตัวเลขเศรษฐกิจก็มีโอกาสที่จะเห็นภาพเงินบาทแข็งค่าต่อได้เช่นกัน กรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 30.70-31.20 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดทุนคึกนักลงทุนเชื่อมั่น 50%เล็งควักเพิ่มแม้เจอโควิด
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ได้จัดทำแบบสอบถามสำรวจความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทยของผู้ลงทุนรายย่อย ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม ถึง 7 มิถุนายน 2563 มีผู้ตอบแบบสอบถามจากทั่วประเทศ จำนวน 1,270 ราย พบว่า ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทยโดย 50% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่ามีการวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มในตลาดทุนไทยในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งในกลุ่มผู้ที่วางแผนจะลงทุนเพิ่มนั้นพบว่า ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ลงทุนที่ลงทุนในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่แล้ว และอีกประมาณ 1 ใน 4 เป็นผู้ลงทุนรายใหม่ โดยหุ้นไทยยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น อาทิ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้เอกชน กองทุนรวม รวมถึงกองทุนที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ
คลายล็อกเริ่มเดินทาง-เปิดเทอม ดันราคาปาล์ม-ยางพารา-หมูพุ่ง
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนกรกฎาคม 2563 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 15,629-15,811 บาท/ตัน เนื่องจากสต๊อกข้าวเหนียวของผู้ประกอบการน้อยลง จึงมีความต้องการรับซื้อเพิ่มขึ้น น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก 12.11-12.23 เซนต์/ปอนด์ จากแรงหนุนของทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคา 36.96-37.20 บาท/กก. จากความต้องการผลิตถุงมือแพทย์ ถุงยางอนามัย และยางยืด มาตรการล็อกดาวน์ ปาล์มน้ำมัน 3.18-3.25 บาท/กก. เนื่องจากมาตรการคลายล็อกดาวน์และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้นทำให้ความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลสูงขึ้น สุกร ราคา 68.41-69.28 บาท/กก. เนื่องจากการคลายล็อกดาวน์ เปิดภาคเรียนทำให้บริโภคเพิ่มขึ้น ประกอบกับประเทศจีนและเวียดนามประสบปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร จึงต้องการเนื้อสุกรจากไทย และกุ้งขาวแวนนาไม 147.00-148.00 บาท/กก. จากการคลายล็อกดาวน์และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
ลงทุนศูนย์ราชการ6.2พันล้าน
ธพส.ผุด5โครงการ-เร่งโซนซีตามแผน กำไรวูบยอมเว้น-ลดค่าเช่านาน6เดือน
นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เปิดเผยว่า ธพส.จะเร่งพัฒนาและบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐ โดยเฉพาะ การพัฒนาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ให้มีความทันสมัย โดยปี 2563-2564 ตั้งเป้าลงทุนรวม 6,200 ล้านบาท เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตลอดจนโครงการใหม่ที่เตรียมพัฒนา แบ่งเป็น ปี 2563 ประมาณ 2,900 ล้านบาท และปี 2564 ประมาณ 3,300 ล้านบาท สำหรับโครงการที่มีแผนในการพัฒนามีจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการอาคารสำนักงานกรมบังคับคดี โครงการบ้านพักข้าราชการพลเรือน โครงการรามาธนารักษ์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โครงการศูนย์กระจายสินค้าประมงและสินค้าเกษตร และโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ เพื่อทดแทนสโมสรข้าราชการกรมสรรพสามิต ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ในส่วนของค่าเช่าพื้นที่ และส่งผลให้การดำเนินงานก่อสร้างในบางพื้นที่ล่าช้าลงอีกด้วย คาดว่ากำไรในปีนี้จะอยู่ที่ 231 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาพอสมควร และปี 2564 ตั้งเป้ากำไร 260 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายธุรกิจจะทำให้ ธพส.กลับมามีกำไรสูงขึ้นอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น