วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 12 มี.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
ซุปเปอร์ริชสีส้มเปิดแลกเงิน
นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานกรรมการบริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) หรือซุปเปอร์ริชสีส้ม เปิดเผยว่ามีแผนเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีความจำเป็นและต้องการแลกเปลี่ยนเงินฯในทุกสาขา 50 แห่งทั่วประเทศ โดยยืนยันจะบริการและให้อัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรม รวมทั้งคำนึงถึงข้อควรปฏิบัติในการรับมือกับโรคไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้อย่างเต็มที่
สั่งด่วนทำเว็บไซต์โควิด
ช่วยตอบคำถามชาวบ้าน คลังออก 'บอนด์ละบาท'
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งจัดทำเว็บไซต์ขึ้นใหม่เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำมาตรการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม ชุดที่ 1 ให้ประชาชนรับทราบโดยเร็ว เนื่องจากมาตรการชุดนี้เกี่ยวข้องกับผู้ได้รับผลกระทบหลายระดับ ตั้งแต่ผู้ประกอบการจนถึงชาวบ้าน และมีรายละเอียดการดำเนินการหลายรูปแบบจึงต้องสื่อสารกับประชาชนให้เกิดความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
วายแอลจีเปิดออมทองเริ่ม 10 บาทเทรด 24 ชม.
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (วายแอลจี) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโปรแกรมให้บริการออมทองเริ่มต้นครั้งละ 10 บาท จากเดิมเริ่มต้น 100 บาท ผ่านโปรแกรมวายแอลจี โกลด์เซฟวิ่ง จับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มเริ่มทำงาน เพื่อสนับสนุนให้ทุกกลุ่มเกิดการออม
'สมคิด' สั่งทะลวงปัญหารถอีวี นำร่องวินรับจ้างกทม. 500 คัน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (อีวี) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดอีวีนัดแรก ว่า โดยมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงพลังงานและคมนาคมไปหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์เร่งให้ไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ให้ได้ภายใน 5 ปีนับจากนี้ โดยทะลวงทุกปัญหาเพื่อการก้าวผ่านไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ระยะเร่งด่วน เช่น การใช้รถอีวี ในหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ,ทำสมาร์ท ซิตี้ บัส และส่งเสริมรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษ (วินสะอาด)
จี้ผ่อนเกณฑ์ปล่อยกู้รายเล็ก
เข้าถึงสินเชื่อซอฟต์โลน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลได้ออกมาตรการชุดที่ 1 เพื่อบรรเทาปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะส่วนหนึ่งเป็นมาตรการที่เอกชนได้นำเสนอ แต่สิ่งที่กังวลคือมาตรการซอฟต์โลนหรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ที่ธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อให้นำไปปล่อยกู้ให้กับเอกชนและเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบโดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 2% นั้น อาจทำให้เกิดปัญหาไม่ครอบคลุมกับเอสเอ็มอี เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยออกมาตรการเช่นนี้ออกมา แต่ปรากฏว่าเอสเอ็มอีไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริงจากธนาคารพาณิชย์
ศุลกากรผนึกตำรวจสากลลุยตรวจเข้ม 'สินค้าเถื่อน'
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ. 63 กรมฯ ได้ตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรทั้งสิ้น 2,196 คดี คิดเป็นมูลค่า 140 ล้านบาท เป็นคดีลักลอบ 74.6% ของมูลค่าทั้งหมด โดยสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบนำเข้าที่สำคัญได้แก่ บุหรี่ สินค้าเกษตร ข้าวโพด เนื้อสัตว์ และเคตามีน ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยาเสพติดแอมเฟตามีน
การค้าไทย-จีนอ่วม 2.4 แสนล.
รายงานข่าวจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ได้ประเมินผลกระทบต่อภาคการค้าไทยจีนจากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการเข้มงวดชัตดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จะทำให้ครึ่งปีแรกของปี 63 มูลค่าการค้าไทยไปจีนลดลง 2.4 แสนล้านบาท หรือติดลบ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 1.6% ของมูลค่าการค้ารวม และประเมินว่าสถานการณ์การค้าไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ประมาณครึ่งปีหลัง ตามการคาดการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ค่อยๆ ลดความรุนแรงลง
ชงบอร์ดกลต.ลดค่าต๋งบจ.
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ได้เตรียมเสนอคณะกรรมการประชุมบอร์ด ก.ล.ต.พิจารณาลดค่าธรรมเนียมประจำปีให้กับบริษัทจดทะเบียนที่ส่งงบการเงินและรายงานประจำปีตามกำหนดเวลา โดยบริษัทที่มีส่วนทุนน้อยกว่า 500 ล้านบาท ยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมด ส่วนบริษัทที่มีส่วนทุนมากกว่า 500 ล้านบาท ลดค่าธรรมเนียมให้ 30%
กลต.จี้ผู้ถือหุ้น 'เอิร์ธ' ศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้นของ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือเอิร์ธ ศึกษาข้อมูลในหนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นให้ละเอียดก่อนเข้าประชุมในวันที่ 15 มี.ค. 63 และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมซักถามกรรมการและผู้บริหารเอิร์ธถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับความสมเหตุสมผลของการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในจำนวนและราคาที่กำหนดให้กับอดีตผู้บริหารเอิร์ธ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนในการประกอบการตัดสินใจลงมติ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น