สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ดันไทยฮับอีวีอาเซียน'สมคิด'สั่งอัดสิทธิประโยชน์เต็มที่
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ว่าไทยตั้งเป้าหมายก้าว สู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) และเป็นศูนย์กลางผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนให้ได้ภายใน 5 ปี หรือปี 2568 โดยเน้นนโยบายจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการลดภาษีสรรพสามิต หรือยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งยังให้ความเป็นธรรมกับ ผู้ประกอบผลิตรถยนต์ในประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ว่าไทยตั้งเป้าหมายก้าว สู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) และเป็นศูนย์กลางผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนให้ได้ภายใน 5 ปี หรือปี 2568 โดยเน้นนโยบายจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการลดภาษีสรรพสามิต หรือยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งยังให้ความเป็นธรรมกับ ผู้ประกอบผลิตรถยนต์ในประเทศ
เคาะแผนพัฒนาตลาดทุนไทยเปิดกระดานหุ้นสำหรับสตาร์ทอัพ
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ 1/2563 ว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนาตลาดทุนไทยให้สามารถส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้เศรษฐกิจไทย พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ประกอบด้วย 2 แผนงานหลัก การยกระดับการเข้าถึงตลาดทุนของประชาชน ผู้ประกอบการหน้าใหม่ และสตาร์ทอัพ พร้อมยกระดับตลาดทุนให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ สามารถเชื่อมโยงกับตลาดอื่นๆ ในโลกได้ เพื่อให้ตลาดทุนไทย เป็นตลาดระดับแนวหน้าของภูมิภาค
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ 1/2563 ว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนาตลาดทุนไทยให้สามารถส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้เศรษฐกิจไทย พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ประกอบด้วย 2 แผนงานหลัก การยกระดับการเข้าถึงตลาดทุนของประชาชน ผู้ประกอบการหน้าใหม่ และสตาร์ทอัพ พร้อมยกระดับตลาดทุนให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ สามารถเชื่อมโยงกับตลาดอื่นๆ ในโลกได้ เพื่อให้ตลาดทุนไทย เป็นตลาดระดับแนวหน้าของภูมิภาค
KTBประเมินเศรษฐกิจโตแค่1.5%หากปัญหาโควิด-19ลากยาวครึ่งปี
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการ ฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออก ที่เป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยว ของไทยปีนี้จะหายไปราว 278,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับ ปีที่แล้ว ในกรุงเทพฯจะลดลงประมาณ 3 ล้านคน ภูเก็ตและเชียงใหม่ จะลดลงกว่า 1 ล้านคน โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้งต่างๆ จะได้รับผลกระทบเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนด้านการส่งออก คาดว่าจะหดตัว 1.9% โดยผลกระทบต่อการส่งออกคาดว่าจะสั้นกว่าผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการ ฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออก ที่เป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยว ของไทยปีนี้จะหายไปราว 278,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับ ปีที่แล้ว ในกรุงเทพฯจะลดลงประมาณ 3 ล้านคน ภูเก็ตและเชียงใหม่ จะลดลงกว่า 1 ล้านคน โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้งต่างๆ จะได้รับผลกระทบเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนด้านการส่งออก คาดว่าจะหดตัว 1.9% โดยผลกระทบต่อการส่งออกคาดว่าจะสั้นกว่าผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น