วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 07 ก.พ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
6แบงก์ชิงเค้กยืนยันตัวตนดิจิทัล
หลังธปท.อนุญาตดีเดย์6ก.พ. กรุงเทพมั่นใจดันลูกค้าเพิ่ม
6 แบงก์พาณิชย์กระโดดเข้าร่วม ทดสอบการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลเปิดบัญชีเงินฝาก หลัง ธปท.อนุญาตให้ดำเนินแล้ว ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.63 แบงก์กรุงเทพมั่นใจโครงการนี้ทำลูกค้าโมบายแบงกิ้งเพิ่ม เป็น 10 ล. ส่วนกรุงศรีใช้คูปองสตาร์บัคและดอกเบี้ยดูดลูกค้า
'ธ.ก.ส.'จ่อออกสลาก2แสนล้าน มั่นใจขายเกลี้ยงในเวลา2เดือน
นายกษาปณ์ เงินรวง ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ ธ.ก.ส.มีแผนออกสลากออมทรัพย์ 2 แสนล้านบาท เพื่อนำมาชดเชยสลากออมทรัพย์หมดอายุลง ซึ่งออกมากกว่าปีที่ผ่านมาออกสลากฯ รวม 1.2 แสนล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ธ.ก.ส.เปิดขายสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดเกษตรมั่นคง 3 จำนวน 200 ล้านหน่วย หน่วยละ 500 บาท รวมวงเงิน 1 แสนล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะกำหนดเงินรางวัล และดอกเบี้ยไว้ก่อนที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 1% เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้สนใจสามารถซื้อที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ทั่วประเทศ และผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile โดยสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดเกษตรมั่นคง 3 มีอายุการรับฝาก 3 ปี เมื่อฝากครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 3 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 0.20% ต่อปี ผู้ที่ฝากไม่ครบกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังได้ลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน และวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี รวม 36 ครั้ง
อันดับวันหยุดคนไทยใช้จ่ายสูง
คริสต์มาสแชมป์ต่อด้วย'วันพ่อ' ฮิตบินญี่ปุ่น-ใช้เงินมากสุดที่สวิส
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยช่วงวันหยุดเทศกาลในปีที่ผ่านมา พบว่าวันคริสต์มาสครองแชมป์ที่มีผู้ใช้จ่ายมากที่สุด คิดเป็น 30% จากยอดรวมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลทั้งหมด ซึ่งรวมถึง วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (วันพ่อแห่งชาติ) วันสิ้นปี วันปิยมหาราช วันตรุษจีน และวันสงกรานต์
ไฟเขียว'มอก.'สารมลพิษ ยูโร5-6จี้สมอ.บังคับใช้'64
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ว่า กมอ.มีมติเห็นชอบร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสารมลพิษจากรถยนต์ขนาดเล็ก ระดับยูโร 5 และยูโร 6 จำนวน 4 มาตรฐาน เพื่อควบคุมปริมาณสารมลพิษที่ปล่อยออกมา ไม่ให้เกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน ออกไซด์ของไนโตรเจน และปริมาณสารมลพิษอนุภาค หรือฝุ่นจากเครื่องยนต์ โดยมีระบบวินิจฉัยอุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษ เป็นระบบที่จะแจ้งผู้ขับขี่ในกรณีที่อุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษทำงานผิดปกติ รวมทั้งมีข้อกำหนดเรื่องความทนทานของอุปกรณ์ควบคุมมลพิษ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ที่ผ่านการใช้งานไประยะเวลาหนึ่งแล้ว ยังคงสามารถควบคุมมลพิษตามเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรฐานได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น