วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 05 ก.พ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แห่ออกกรมธรรม์ไวรัส-ฝุ่น
ผู้บริโภคจ่ายเบี้ยแค่หลักร้อย คุ้มครองครบทั้ง 'รักษา-ตาย'
นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ออกกรมธรรม์ประกันไวรัสโคโรนาเพื่อช่วยบรรเทาและลดภาระค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยในระยะสุดท้ายจากการติดเซื้อไวรัสโคโรนาสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 100,000 บาท คิดเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงปีละ 150 บาท เท่ากันทุกช่วงอายุ โดยผู้สนใจสามารถซื้อกรมธรรม์ เพื่อรับความคุ้มครองได้ทุกช่องทาง หรือผ่านทุกสาขาทั่วประเทศ
ธปท.เล็งคุมบริการแบงก์รัฐ
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. เตรียมออกประกาศเกณฑ์การกำกับดูแลการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (มาร์เก็ตคอนดักท์) ซึ่งจะเป็นการขยายขอบเขตไปยังสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ หรือแบงก์รัฐ นาโนไฟแนนซ์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ จากปัจจุบันเกณฑ์ถูกใช้กับธนาคารพาณิชย์เท่านั้น โดยการขยายเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อให้การบริการของสถาบันการเงินมีความเป็นธรรม ไม่บังคับขายผลิตภัณฑ์ บอกข้อมูลแก่ลูกค้าครบถ้วน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และต้องยึดถือจรรยาบรรณเป็นสำคัญ คาดใช้กลางปีนี้
วายแอลจีแนะทำกำไรสั้น นักลงทุนยังกังวลไวรัส
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่ง เปิดเผยว่า คาดสถานการณ์ไวรัสอู่ฮั่นระบาดส่งผลนักลงทุนวิตกกังวลแม้ยอมรับทางการจีนตอบสนองสถานการณ์ได้รวดเร็วแต่นักลงทุนยังต้องการความชัดเจนการควบคุมการระบาด นักลงทุนยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแม้ว่าข้อมูลทางสถิติบ่งชี้ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คิดเป็นเพียง 2.2% จากยอดผู้ติดเชื้อเท่านั้น ต่ำกว่าช่วงเกิดโรคซาร์สในปี 46 ซึ่งพบยอดผู้เสียชีวิตมากถึง 9.56% จากยอดผู้ติดเชื้อ แต่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่พุ่งทะลุแซงหน้าซาร์สเมื่อ 17 ปีก่อน ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจีนและทั่วโลก
ชี้ช่องแมงเม่าซื้อหุ้นถูก แนะ 4 กลุ่มเด่น 'ปันผลดี'
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.พ. นี้มีโอกาสปรับลดลงของดัชนีหุ้นไทยจำกัดที่บริเวณ 1,480 จุด จากความผันผวนด้านความไม่แน่นอนของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 และสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งถือเป็นจังหวะในการสะสม-เข้าลงทุน เพื่อรอโอกาสในการฟื้นตัวในไม่ช้า โดยนักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเด่นและกำไรปี 63 มีแนวโน้มเติบโตได้ปานกลางประมาณ 6-8% โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาแรงๆ
จับมือมิเอะยกระดับอุตฯอาหาร
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังฉลองการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัด มิเอะ-ประเทศไทย ครบรอบ 1 ปีว่า เตรียมเปิดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีบริการเช่าใช้เครื่องมือการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ภายในศูนย์นวัตกรรมฯ ที่บริษัท ซูเอฮิโระ อีพีเอ็ม ประเทศญี่ปุ่น ได้ติดตั้งเครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับการแปรรูปอาหาร เพื่อช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารต้นแบบให้มีศักยภาพและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน มุ่งไปสู่เวทีระดับโลกได้
เว้นภาษีให้บริษัทเอกชน
อ้าแขนรับผู้พ้นโทษทำงาน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษเข้าทำงาน โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งรับผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ปล่อยตัวเข้าทำงาน พร้อมทั้งยังสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจ้างงานผู้พ้นโทษเฉพาะส่วนที่ไม่เกินคนละ 15,000 บาทต่อเดือน ในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 63 ไปหักลดหย่อนได้ 50% ของรายจ่ายที่ได้จ่ายไป
เข้มมาตรฐาน 'เพาเวอร์แบงก์' คาดพ.ค.นี้เริ่มใช้ฝ่าฝืนเจอคุก
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าสำหรับใช้งานแบบพกพา หรือเพาเวอร์แบงก์ คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ.... เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย ทั้งนี้เป็นการออกกฎกระทรวงตาม มาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉ.8) พ.ศ. 2562 เพื่อกำหนดให้เพาเวอร์แบงก์ ต้องมีคุณลักษณะเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก.2879-2560 ซึ่งได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องแล้ว
ครม.คุม 'ข้าวจีทูจี' ปลอม จี้นายกฯต้องรับผิดชอบ
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบแนวทางปฏิบัติการเจรจาและการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี เพื่อทำให้การทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐมีความน่าเชื่อถือและโปร่งใสหรือแก้ไขปัญหาจีทูจีปลอม รวมทั้งสอดคล้องกับการค้าข้าวของประเทศในปัจจุบัน นอกจากนี้รัฐบาลของประเทศที่จะทำสัญญาซื้อขายข้าวกับรัฐบาลไทยต้องเป็นหน่วยงานรัฐบาลหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เว้นแต่บางประเทศมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่เจรจาและทำสัญญาซื้อขายข้าวเพียงหน่วยงานเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น