วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 01 พ.ย. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
ดอกเบี้ยถูกคนไทยเมินฝากเงิน
หนีลงทุนอย่างอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่า 'ออมสิน' เตือนเร่งออมรับ 'สังคมสูงวัย'
คลังหนุนคนไทยออมเงินรับวันออมแห่งชาติ ออมสินชี้ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้คนไทยฝากเงินลดลง หันไปลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า เตือนเร่งออมเงินรับสังคมผู้สูงอายุ
เอ็มยูเอฟจีเล็งเข็นเบย์ขึ้นเบอร์ 1 ในไทย
นายชิโระ ฮอนโจ ผู้บริหารระดับสูงและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวางแผนธุรกิจขนาดใหญ่ระดับโกลบอล ธนาคารเอ็มยูเอฟจี (MUFG) ที่เป็นบริษัทแม่ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา (เบย์) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงศรีฯ ถือเป็นแบงก์ 1 ใน 3 แบงก์ที่ทำกำไรให้กับ MUFG มากที่สุด โดยมีแผนที่จะผลักดันธนาคารกรุงศรีฯ ให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของสถาบันการเงินในประเทศไทยในอนาคต จากปัจจุบันที่มีสินทรัพย์อยู่เป็นอันดับ 5 โดยจะเพิ่มศักยภาพในกลุ่มลูกค้ารายย่อย (เอสเอ็มอี) รวมถึงจะเป็นตัวเชื่อมในการจับคู่ธุรกิจให้มากขึ้น และมีแผนจะผลักดันให้ธนาคารกรุงศรีฯและธนาคารไดนามอน อินโดนีเซียเป็นแกนหลักในการขยายธุรกิจในเอเชีย
อสังหาฯพาเหรดอัดโปรส่งท้ายปี
แจกทอง-สมาร์ทโฟน-ล่องเรือยอชต์
นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนจากเดิม 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิต มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ขณะเดียวกันธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็จะมีมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยกระตุ้นบรรยากาศ การซื้อที่อยู่อาศัยในไตรมาส 4 ดีขึ้น เพราะ ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยเร่งการตัดสินใจของ กลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มเรียลดีมานด์ ได้เร็วขึ้น และเพื่อรองรับมาตรการดังกล่าวบริษัทได้นำโครงการที่ราคาไม่เกิน 3 ล้าน บาท มาจัดโปรโมชั่นพิเศษพร้อมมอบ 30 รางวัล มูลค่ารวม 3 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ โอเชี่ยนทาวน์ เมือง-รัษฎา จังหวัดภูเก็ต เริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท และโครงการโอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ-ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท
'คน.' เผยกลุ่มรพ.เอกชน บวกกำไรค่ายากว่าหมื่น%
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนยาเวชภัณฑ์ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า การกำหนดราคาขายของ โรงพยาบาลแบบกลุ่มที่มีบริษัทในเครือ ไม่สอดคล้องกับต้นทุน คือ ต้นทุนต่ำ แต่กำหนดราคาขายสูง โดยยาลดไขมัน (Bestatin) ช่วงราคาขายอยู่ที่ 2-61 บาท มีการบวกส่วนเพิ่มสูงถึง 11,965% และมีอัตรากำไรส่วนเกิน ประมาณ 60-99.17% รองลงมา คือ ยาแก้ปวดลดไข้ (Tylenol) ช่วงราคาขายอยู่ที่ 1-22 บาท มีการบวกส่วนเพิ่มสูงสุด 4,483 % และมีอัตรากำไรส่วนเกิน ประมาณ 21-97.82% ขณะที่ ยาลดความดัน (Anapril) ช่วงราคาขายอยู่ที่ 2-56 บาท มีการบวกเพิ่ม 9,100% และมีอัตรากำไรประมาณ 60-98.91% ยาฆ่าเชื้อ (Ciprobay) ช่วงราคาขายอยู่ที่ 1,723-3,654 บาท มีการบวกส่วนเพิ่มสูงสุด 255.81% และมีอัตรากำไรส่วนเกิน 37.18-71.90% และยามะเร็ง (Herceptin) ช่วงราคาขายอยู่ที่ 86,500-234,767 บาท มีการบวกเพิ่มสูงสุด 188.80% และมีอัตรากำไรส่วนเกิน 63.37%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น