วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
สรรพากรจ่อรื้อลดหย่อนภาษี
ปรับโครงสร้างใหม่ยุติ 'เหลื่อมล้ำ' ลุยกองทุนหุ้นยั่งยืนแทนแอลทีเอฟ
สรรพากรเล็งปรับรายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ชี้โครงสร้างปัจจุบันคนมีรายได้สูงได้ประโยชน์มากสุด ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยันเร่งศึกษาข้อดีข้อเสียกองทุนหุ้นยั่งยืนทดแทนแอลทีเอฟ
ผนึกลาว-มาเลย์ซื้อขายไฟเฟส 2 สิงคโปร์สนร่วมวงแอลทีเอ็มเอส
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างลาว ไทย และมาเลเซีย เรื่องการขยายความร่วมมือในการเชื่อมโยงพลังงานไฟฟ้า ภายในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานครั้งที่ 37 ว่า ไทย ลาว และมาเลเซีย เห็นชอบขยายโครงการด้านไฟฟ้า ระยะที่ 2 (แอลทีเอ็ม-พีไอพี) เพิ่มเป็น 2 ปี หรือระหว่างปี 2563-2564 และได้เพิ่มปริมาณจากการซื้อขายสูงสุด จาก 100 เมกะวัตต์ เป็น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการซื้อขายในเดือนมกราคม 2563 โดยจะจัดทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับเพิ่มเติมของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งไทยจะได้นำร่างเอกสารดังกล่าวเข้าขอรับความเห็นชอบตามกระบวนการภายใน คาดว่าจะมีการลงนามภายในปี 2562
ดีอีเร่งรวม 'แคท-ทีโอที' ขีดเส้น 45 วันได้ข้อสรุป
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการควบรวมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท เป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติว่า จากการหารือร่วมกับ 4 ฝ่าย ได้แก่ คณะผู้บริหารของทีโอที คณะผู้บริหารของแคท สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ แคท กำหนดให้ภายใน 45 วัน หรือภายในกลางเดือนตุลาคม 2562 ต้องมีข้อสรุปใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.แผนบริหารจัดการบุคลากร ว่าหลังจากการควบรวมกิจการจะมีแนวทางอย่างไร 2.สินทรัพย์และหนี้สิน ที่จะมีข้อสรุปร่วมกันได้หรือไม่ ทั้งนี้สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำวินิจฉัยเบื้องต้นว่า การควบรวมกิจการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อสินทรัพย์และหนี้สินของทั้ง 2 องค์กร และ 3.สัญญาและสัมปทานต่างๆ ที่เมื่อเกิดการควบรวมแล้ว จะเกิดผลกระทบหรือไม่ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี และเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันอีกครั้ง
'ข้าวเปลือก' ราคาพุ่งสูง
ภัยแล้งฉุดผลผลิตเสียหาย 'ยางพารา' วูบลุ้นรัฐประกัน
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนกันยายน 2562 ที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส.ว่า สินค้าเกษตรที่จะมีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% คาดราคาขายอยู่ที่ 7,975-8,081 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.15-2.50 เนื่องจากแหล่งผลิตข้าวนาปรังที่สำคัญ อาทิ จังหวัดสุพรรณบุรี พิษณุโลก และพิจิตร ยังคงประสบปัญหาภัยแล้งอยู่ ทำให้อุปาทานข้าวลดลง ข้าวเปลือกหอมมะลิ คาดราคาอยู่ที่ 16,000-16,109 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.23-0.91 เนื่องจากภาวะภัยแล้งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลผลิตข้าวหอมมะลิได้รับความเสียหาย
เอฟทีเอดันส่งออกนมโตศก.ชะลอไม่ระคายตลาด
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของไทย พบว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมโคนมไทยพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการบริโภคนมของคนไทยที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมูลค่าการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปยังตลาดต่างประเทศก็เติบโตขึ้นเช่นกัน โดยปี 2561 ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลก 477 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปี 2560 ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่พบว่าในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2562 ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมไปยังตลาดโลกได้สูงถึง 260 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น นมพร้อมดื่มยูเอชที นมเปรี้ยว โยเกิร์ต และนมจืด เป็นต้น มีตลาดส่งออกสำคัญ คือ อาเซียน ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 82 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย ตามด้วย จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น