สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
'กยศ.' เข็น 5 มาตรการแก้หนี้
ทั้งลดเบี้ยปรับพักชาระคาดร่วม 4 แสนราย จับมือต้นสังกัดหักเงิน-เล็งได้คืน 3 หมื่นล.
บอร์ด กยศ.ออก 5 มาตรการแก้หนี้ ทั้งลดเบี้ยปรับ 75-80% พร้อมพักชำระหนี้ คาดผู้กู้ร่วมโครงการกว่า 4 แสนราย เดินหน้าร่วมมือหน่วยงานหักเงินเดือน มั่นใจรับชำระหนี้คืนกว่า 3 หมื่นล้าน ลั่นยังไม่จำกัดโควต้ากู้
ทั้งลดเบี้ยปรับพักชาระคาดร่วม 4 แสนราย จับมือต้นสังกัดหักเงิน-เล็งได้คืน 3 หมื่นล.
บอร์ด กยศ.ออก 5 มาตรการแก้หนี้ ทั้งลดเบี้ยปรับ 75-80% พร้อมพักชำระหนี้ คาดผู้กู้ร่วมโครงการกว่า 4 แสนราย เดินหน้าร่วมมือหน่วยงานหักเงินเดือน มั่นใจรับชำระหนี้คืนกว่า 3 หมื่นล้าน ลั่นยังไม่จำกัดโควต้ากู้
'พิพัฒน์' เทงบ 120 ล้าน กระตุ้นเที่ยวครึ่งปีหลัง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีงบประมาณเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวกว่า 120 ล้านบาท ไม่รวมกับมาตรการแจก 1,000 บาท โดยจะใช้กับ 3 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังจะมีผลใช้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้ได้รับอนุมัติแล้ว 1 โครงการคือ มาตรการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทย ใช้ได้กับทั้งอาหาร ที่พักและการเดินทาง ในทุกวันที่ 9 เดือน 9 วันที่ 10 เดือน 10 วันที่ 11 เดือน 11 และวันที่ 12 เดือน 12 ในรูปแบบการสุ่มผู้โชคดีจำนวน 10,000 รายต่อวัน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีงบประมาณเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวกว่า 120 ล้านบาท ไม่รวมกับมาตรการแจก 1,000 บาท โดยจะใช้กับ 3 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังจะมีผลใช้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้ได้รับอนุมัติแล้ว 1 โครงการคือ มาตรการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทย ใช้ได้กับทั้งอาหาร ที่พักและการเดินทาง ในทุกวันที่ 9 เดือน 9 วันที่ 10 เดือน 10 วันที่ 11 เดือน 11 และวันที่ 12 เดือน 12 ในรูปแบบการสุ่มผู้โชคดีจำนวน 10,000 รายต่อวัน
'สมคิด' ดึงจีนพัฒนาเมืองการบิน หวังเปิดช่องส่งสินค้าไทยไป 'อียู'
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษอากาศยานเจิ้งโจว และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ว่า ความร่วมมือดังกล่าวสร้างประโยชน์ร่วมกันมหาศาล โดยเฉพาะการเชื่อมโยงด้านการค้า การขนส่ง และการลงทุน โดยไทยจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน และส่งผ่านไปสู่สหภาพยุโรป (อียู) โดยจะอาศัยพันธสัญญาของจีนที่มีกับอียู ในการขนส่งสินค้าระหว่างกัน โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการร่วมมือที่ดี เบื้องต้นได้สั่งการให้นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.เร่งทำการเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษอากาศยานเจิ้งโจว และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ว่า ความร่วมมือดังกล่าวสร้างประโยชน์ร่วมกันมหาศาล โดยเฉพาะการเชื่อมโยงด้านการค้า การขนส่ง และการลงทุน โดยไทยจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน และส่งผ่านไปสู่สหภาพยุโรป (อียู) โดยจะอาศัยพันธสัญญาของจีนที่มีกับอียู ในการขนส่งสินค้าระหว่างกัน โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการร่วมมือที่ดี เบื้องต้นได้สั่งการให้นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.เร่งทำการเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
ธปท.ห่วงหนี้ครัวเรือนเข้มปล่อยกู้
ยันปีนี้ยังไม่ใช้เกณฑ์คุมหนี้/รายได้สูงสุด ศูนย์ข้อมูลชี้ถ้าออกช่วงนี้กระทบอสังหา
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกมาตรการหลายส่วนเพื่อดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่ยังไม่มีแผนที่จะนำมาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้สูงสุด (ดีเอสอาร์ลิมิต) มาบังคับใช้ในปีนี้ โดยปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างดำเนินการร่วมกับสถาบันการเงินใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การกำหนดมาตรฐานกลางในการคำนวณดีเอสอาร์ ทั้งในส่วนภาระหนี้และ รายได้ของผู้กู้ ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงิน แต่ละแห่งมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน โดยล่าสุดได้มีข้อตกลงมาตรฐานกลาง ดีเอสอาร์ร่วมกันแล้ว คาดว่าจะเริ่มรายงานข้อมูลดีเอสอาร์ตามมาตรฐานกลางให้ ธปท. ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และ 2.การผลักดันให้สถาบันการเงินนำหลักการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบไปใช้โดยลูกหนี้ต้องมีเงินเพียงพอสำหรับดำรงชีพหลังชำระหนี้แล้ว
ยันปีนี้ยังไม่ใช้เกณฑ์คุมหนี้/รายได้สูงสุด ศูนย์ข้อมูลชี้ถ้าออกช่วงนี้กระทบอสังหา
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกมาตรการหลายส่วนเพื่อดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่ยังไม่มีแผนที่จะนำมาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้สูงสุด (ดีเอสอาร์ลิมิต) มาบังคับใช้ในปีนี้ โดยปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างดำเนินการร่วมกับสถาบันการเงินใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การกำหนดมาตรฐานกลางในการคำนวณดีเอสอาร์ ทั้งในส่วนภาระหนี้และ รายได้ของผู้กู้ ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงิน แต่ละแห่งมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน โดยล่าสุดได้มีข้อตกลงมาตรฐานกลาง ดีเอสอาร์ร่วมกันแล้ว คาดว่าจะเริ่มรายงานข้อมูลดีเอสอาร์ตามมาตรฐานกลางให้ ธปท. ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และ 2.การผลักดันให้สถาบันการเงินนำหลักการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบไปใช้โดยลูกหนี้ต้องมีเงินเพียงพอสำหรับดำรงชีพหลังชำระหนี้แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น