วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 เม.ย. 2562

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
เครดิตบูโรไล่บี้คุมกลุ่มเสี่ยง
วัยใกล้เกษียณกู้สหกรณ์ฯ ผ่อนยาวไร้อาชีพทำหนี้เสีย
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า เป็นกังวลสหกรณ์ออมทรัพย์ปล่อยกู้ให้กับสมาชิกแบบระยะยาว ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องการใช้หนี้คืนในอนาคตได้ เช่น มาขอกู้ตอนอายุ 55 ปี และ ให้ผ่อนใช้คืนถึง 150 งวด หรือ 12 ปีครึ่ง เท่ากับว่าเกินอายุวัยเกษียณไปแล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ถ้าหากไม่ได้มีธุรกิจส่วนตัว ทำงานหลังเกษียณจะเอาเงินที่ไหนใช้หนี้คืนสหกรณ์ และสหกรณ์จะรู้ได้อย่างไรว่า ในอนาคตเมื่อเกษียณไป แล้วจะมีเงินใช้จ่ายคืน ซึ่งต่างจากสถาบันการเงินที่ระบุชัดเจนว่า มีระยะเวลาผ่อนหนี้คืนได้เพียงถึงอายุ 60-65 ปี เท่านั้น
เอพีฯ ปลื้มโชว์ยอดขายกระฉูด มาตรการ 'แอลทีวี' กรองลูกค้า
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรกมีแนวโน้มเติบโตที่ดีเนื่องจากกำลังซื้อที่มีอยู่มากทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง สะท้อนได้จากยอดขายรวมของบริษัทฯ ที่ทำได้กว่า 12,585 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายคอนโดมิเนียมมูลค่า 6,365 ล้านบาท และแนวราบมูลค่า 6,220 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนส่งผลให้ยอดขายปีนี้ทำได้แล้ว 30% ของเป้ายอดขายปี 62 ที่ตั้งไว้ที่ 41,800 ล้านบาท
ตะลึงภาษียาเส้นพุ่ง 200%
คุมเบียร์ส่งออก-น้ำมันเขียว
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าคนไทยหันมาสูบยาเส้นแทนบุหรี่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้จากการเก็บภาษียาเส้นของกรมฯ ในช่วงครึ่งปีตั้งแต่เดือน ต.ค. 61-มี.ค. 62 จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นถึง 200% ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเก็บภาษียาเส้นปัจจุบันมีอัตราต่ำมากเพียง 0.005 บาทต่อกรัม ต่ำกว่าบุหรี่ที่เก็บภาษีถึง 2 ขาที่มูลค่า 20-40% ของราคาขาย และเก็บตามปริมาณ 1.2 บาทต่อมวน ทำให้ราคาบุหรี่สูงกว่ามากและบางส่วนจึงหันไปใช้ยาเส้นแทน อีกทั้งกรมยังมีการนำยาเส้นพันธุ์พื้นเมืองเข้ามาเก็บภาษีด้วย ดังนั้นกรมจึงจะมีการทบทวนอัตราภาษียาเส้นใหม่ ให้มีอัตราสูงกว่าเดิม
ทีเส็บดึงงานใหญ่เข้าไทย
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 62 จะเน้นดึงงานใหม่ที่มีศักยภาพสูงเข้ามาจัดงานในไทย โดยเฉพาะงานในอุตสาหกรรมหลักตามเป้าหมายของรัฐบาล ล่าสุด มีงานที่เตรียมเข้ามาจัดในปีนี้แล้วรวม 43 งาน ซึ่งทีเส็บมีส่วนร่วมสำคัญในการประมูลสิทธิงาน คาดว่า จะมีนักเดินทางในกลุ่มไมซ์ทั้งชาวไทยและต่างชาติรวม 133,435 คน คิดเป็นรายได้รวมกว่า 5,025 ล้านบาท
ชง 'บิ๊กตู่' ชี้ชะตาดิวตี้ฟรี
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ได้มีการประชุมสรุป โครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ (ดิวตี้ฟรี) ของบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. แล้ว และจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการพีพีพีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมวันที่ 18 เม.ย. 62
'สมอ.-สคบ.' ตรวจเข้ม ชี้ปืนฉีดน้ำต้องมีมอก.
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ต้องการเตือนให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้ในเทศกาลสงกรานต์ ที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับ เช่น ปืนฉีดน้ำ ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่ม มอก. ภาคบังคับ เลขที่ 685-2540 เนื่องจากมีความปลอดภัยกับเด็ก ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยลักษณะภายนอก และสารโลหะหนักที่เป็นส่วนประกอบรวมถึงควบคุมแรงดันของปืนฉีดน้ำไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา หรือร่างกายของเด็ก
หัตถกรรมไทยฮอต ศิลปินดาราแห่ช้อป
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (ศศป.) เปิดเผยว่า สินค้าหัตถกรรมไทย กำลังได้รับความสนใจจากนักชอปปิงทั้งในและต่างประเทศมาก โดยเฉพาะกลุ่มศิลปิน นักแสดง ผู้กำกับ และกลุ่มอาชีพต่างๆ เนื่องจาก ศศป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความรู้ การออกแบบ และทำตลาดแก่ชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพศิลปหัตถกรรมไทย ให้ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ชื่นชอบงานหัตถกรรมประยุกต์ ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่มากขึ้น เห็นได้จากการจัดงานคราฟต์ บางกอก 2019 ซึ่งถือว่าสำเร็จเกินเป้าหมาย เพราะมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 22,000 คน สูงกว่าที่คาดการณ์จะมีผู้เข้าร่วมงาน 20,000 ราย และมียอดจำหน่ายและคำสั่งซื้อในงานถึง 65 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 50 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น