สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
ดีเดย์ผังเมือง'อีอีซี'บังคับใช้ก.ค.
เตือนอย่าซื้อที่เก็งกำไรหวั่นขายยาก คาดปี62 ที่อยู่อาศัยย่านนี้โตได้ 5-10%
คาดผังเมือง 'อีอีซี' บังคับใช้ ก.ค.62 เตือนอย่าเก็งกำไรที่ดินเสี่ยงขายยาก ด้านศูนย์ข้อมูลคาดความต้องการที่อยู่ในอาศัยในย่านนี้น่าจะเติบโตได้ 5-10%
เตือนอย่าซื้อที่เก็งกำไรหวั่นขายยาก คาดปี62 ที่อยู่อาศัยย่านนี้โตได้ 5-10%
คาดผังเมือง 'อีอีซี' บังคับใช้ ก.ค.62 เตือนอย่าเก็งกำไรที่ดินเสี่ยงขายยาก ด้านศูนย์ข้อมูลคาดความต้องการที่อยู่ในอาศัยในย่านนี้น่าจะเติบโตได้ 5-10%
'ซีไอเอ็มบี' ขึ้นแล้วรายแรก ดอกเบี้ยกู้ 0.12% มีผลวันนี้
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงประเภทอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) ขึ้น 0.125% ต่อปี จาก 7.75% เป็น 7.875% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป เนื่องจากต้นทุนทางการเงินปรับสูงขึ้น หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% เป็น 1.75% ต่อปี ทั้งนี้ การปรับดอกเบี้ยลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากภาระค่างวดต่อเดือนเพิ่มหลักร้อยบาทในการกู้ต่อ 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากปรับดอกเบี้ยคาดว่าช่วงแรกอาจมีลูกค้าใหม่ชะลอกู้บ้านกับธนาคารเพราะพิจารณาดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นบ้าง
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงประเภทอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) ขึ้น 0.125% ต่อปี จาก 7.75% เป็น 7.875% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป เนื่องจากต้นทุนทางการเงินปรับสูงขึ้น หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% เป็น 1.75% ต่อปี ทั้งนี้ การปรับดอกเบี้ยลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากภาระค่างวดต่อเดือนเพิ่มหลักร้อยบาทในการกู้ต่อ 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากปรับดอกเบี้ยคาดว่าช่วงแรกอาจมีลูกค้าใหม่ชะลอกู้บ้านกับธนาคารเพราะพิจารณาดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นบ้าง
'สคร.'ยันไทยแลนด์ฟิวฟันด์
ไม่เอื้อนายทุน-ทุกอย่างเป็นไปตามมติ'ครม.'
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษก สคร. เปิดเผยถึงกรณีที่ เพจ pramote nakornthab ของนายปราโมทย์ นาครทรรพ ออกมาระบุเกี่ยวกับเรื่องภารกิจของ สคร.ในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐานเพื่ออนาคตแห่งประเทศไทย (TFFIF) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการทางหลวงพิเศษสายบางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี และการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติภายใต้ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ..... (ร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจ) ว่า การให้โครงการทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และบางนา-ชลบุรีเข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์นั้น ถือเป็นทางเลือกในการระดมทุนในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งการจัดตั้งและระดมทุนของ TFFIF ดำเนินการตามประกาศและหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 ทำให้การเสนอขายหน่วยลงทุนต่อนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ TFFIF มีการจัดสรรให้แก่ประชาชนรายย่อยมากที่สุดในสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนที่เสนอขาย ส่วนนักลงทุนสถาบันก็จัดสรรให้กับนักลงทุนในประเทศเท่านั้น
ไม่เอื้อนายทุน-ทุกอย่างเป็นไปตามมติ'ครม.'
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษก สคร. เปิดเผยถึงกรณีที่ เพจ pramote nakornthab ของนายปราโมทย์ นาครทรรพ ออกมาระบุเกี่ยวกับเรื่องภารกิจของ สคร.ในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐานเพื่ออนาคตแห่งประเทศไทย (TFFIF) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการทางหลวงพิเศษสายบางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี และการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติภายใต้ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ..... (ร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจ) ว่า การให้โครงการทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และบางนา-ชลบุรีเข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์นั้น ถือเป็นทางเลือกในการระดมทุนในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งการจัดตั้งและระดมทุนของ TFFIF ดำเนินการตามประกาศและหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 ทำให้การเสนอขายหน่วยลงทุนต่อนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ TFFIF มีการจัดสรรให้แก่ประชาชนรายย่อยมากที่สุดในสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนที่เสนอขาย ส่วนนักลงทุนสถาบันก็จัดสรรให้กับนักลงทุนในประเทศเท่านั้น
'กสิกร'ปรับลดกำไรพลังงานปิโตรฯ เหลือ 1.88 แสนล.เหตุราคาน้ำมันดิ่ง
นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในปี 2562 ลงเหลือ 1.88 แสนล้านบาท ลดลงจำนวน 31,000 ล้านบาท หรือประมาณ 15% ซึ่งจะมีผลกระทบต่อกำไรของตลาด 5% จากปกติจะมีกำไรสุทธิรวม 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ทำให้กระทบต่อกำไรของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทั้งนี้ ในส่วนของแผน พีดีพีฉบับใหม่ ต้องการ IPP มากกว่าแผนฉบับเดิม ซึ่งมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์ 2 บริษัทคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง (RATCH) มี โรงไฟฟ้า 2 โรง ขนาดกำลังการผลิตโรงละ 700 เมกะวัตต์ ในปีนี้จะหมดอายุลง 1 โรง คาดว่ารัฐจะใช้เวลาในการเจรจา เพราะการสร้างก่อสร้างใหม่ไม่ทัน ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 จะหมดอายุในปี 2566 ซึ่งก็มีโอกาสในการเจรจาหรือเปิดประมูลได้
นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในปี 2562 ลงเหลือ 1.88 แสนล้านบาท ลดลงจำนวน 31,000 ล้านบาท หรือประมาณ 15% ซึ่งจะมีผลกระทบต่อกำไรของตลาด 5% จากปกติจะมีกำไรสุทธิรวม 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ทำให้กระทบต่อกำไรของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทั้งนี้ ในส่วนของแผน พีดีพีฉบับใหม่ ต้องการ IPP มากกว่าแผนฉบับเดิม ซึ่งมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์ 2 บริษัทคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง (RATCH) มี โรงไฟฟ้า 2 โรง ขนาดกำลังการผลิตโรงละ 700 เมกะวัตต์ ในปีนี้จะหมดอายุลง 1 โรง คาดว่ารัฐจะใช้เวลาในการเจรจา เพราะการสร้างก่อสร้างใหม่ไม่ทัน ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 จะหมดอายุในปี 2566 ซึ่งก็มีโอกาสในการเจรจาหรือเปิดประมูลได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น