วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 06 ธ.ค. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ธสน.ขอเพิ่มทุน 1.5 หมื่นล. 
หนุนปล่อยกู้รุกซีแอลเอ็มวี ปีหน้าปักธงสาขาเขมรเพิ่ม
แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์เปิดเผยระหว่างเดินทางไปจัดตั้งสำนักงานผู้แทน ธสน. ที่ สปป.ลาว ว่าขณะนี้ธนาคารได้เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาเพิ่มทุนให้ธนาคารอีก 15,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับทุนปัจจุบันที่ 20,000 ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 35,000 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารมีทุนขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการและรัฐวิสาหกิจเข้าไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยการเพิ่มทุนจะใช้เงินทุนกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจโดยแบ่งการเพิ่มทุนเป็น 2 ระยะในปี 62-63 ปีแรกเพิ่มทุน 8,000 ล้านบาท และปี 63 เพิ่มอีก 7,000 ล้านบาท
เดอะเฟสชอปชะลอเปิดสาขา
นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอฟเอส (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายแบรนด์เดอะเฟสชอปอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการเปิดสาขาหลังจากนี้บริษัทจะลดจำนวนลงถึง 1 เท่าตัว จากปกติที่เปิดปีละ 25-30 สาขา ลดเหลือ 10 สาขา จากเงินลงทุนสาขาละ 3-5 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมสินค้าอุปโภคบริโภคยังเติบโตน้อยมาก จากปัจจัยด้านกำลังซื้อ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคน้อย รวมทั้งหนี้ครัวเรือนต่าง ๆ ค่อนข้างสูง จึงทำให้บริษัทต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง
ชงลาวเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยว
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.ร่วมระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอให้ที่ประชุมรับทราบถึงความคืบหน้าของไทยในการผ่อนปรนการจัดทำ รี-เอ็นทรี วีซ่า หรือการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ทำวีซ่าไทยแบบอนุญาตครั้งเดียว สามารถเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน และกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตใหม่อีกครั้ง รวมถึงวีซ่าทางบกและดับเบิล เอ็นทรี วีซ่า หรือวีซ่าเข้าประเทศไทย 1 ครั้ง สามารถเดินทางเข้าไทยได้ 2 ครั้ง ที่ทำให้เกิดความสะดวกกับนักท่องเที่ยว ที่มีผลต่อการท่องเที่ยวของ สปป.ลาวด้วย ที่จะสามารถร่วมมือกันในการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงระหว่างกัน ทำให้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
ออกเกณฑ์คุมรัฐวิสาหกิจ กันแจกเงินจน'กระเป๋าฉีก'
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบการปรับปรุงแนวทางการกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ค่าตอบแทนระบบแรงจูงใจและสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะเรื่องการกำหนดค่าตอบแทนของพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้นทุกรัฐวิสาหกิจต้องดูปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบคอบโดยค่าตอบแทนควรมีระดับที่เหมาะสมสอดคล้องกับตลาดแรงงานในสาขาเดียวกันทั้งในรัฐวิสาหกิจและเอกชนรวมถึงหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่มีลักษณะงานใกล้เคียงกัน
คลอดกม.แก้ผูกขาดธุรกิจ
รายใหญ่กินรวบโทษติดคุก
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าพ.ศ.2561 ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการฯ เรื่องหลักเกณฑ์การเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด ภายใต้ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ซึ่งจะมีผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ที่ทำให้เกิดการผูกขาด และความไม่เป็นธรรมทางการค้าได้ หากฝ่าฝืนจะมีทั้งโทษอาญา และโทษปรับ โดยโทษอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากกระทำผิดในปีแรกของการประกอบธุรกิจ ต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท คาดว่า จะมีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้ ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ลดชดเชยจ่อขยับแอลพีจี 
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า มั่นใจกรอบวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานเป็นประธาน กำหนดไว้ 7,000 ล้านบาท เพื่อดูแลราคาแอลพีจีถังครัวเรือน 15 กก. ไม่เกิน 363 บาทต่อถัง จะตรึงราคาได้ถึงสิ้นปีตามเป้าหมาย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับลดลงเฉลี่ยมาอยู่ที่ 60-61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ได้ส่งผลให้ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ปรับลดลง เคลื่อนไหวเฉลี่ย 450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เทียบจากช่วง ต.ค.ที่ผ่านมา ราคาแอลพีจีตลาดโลกเคลื่อนไหวในระดับสูงกว่า 500 ดอลลาร์ต่อตัน
แบงก์แฉค่ายรถหัวหมอ แจกเงินทอนล้างสต๊อก 
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้พบตลาดสินเชื่อยานยนต์มีการให้เงินทอน หรือเงินเหลือ เช่นเดียวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ขายไม่ออก รถชุดแต่งอุปกรณ์ครบ แต่ลูกค้าไม่อยากได้ก็ทอนเงินให้เป็นเงินสดและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (ดีลเลอร์) เร่งปิดยอดขายจึงเกิดข้อเสนอที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบสินเชื่อยานยนต์ได้ในอนาคต จึงเชื่อว่าหากมีมากขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้ามาดูแล คล้ายกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น