วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 15 ส.ค. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
ครึ่งปีไทยใช้น้ำมันโตเฉียด 4% ธพ.โวสะท้อนเศรษฐกิจฟื้นแล้ว 'ส่งออก-ท่องเที่ยว'เป็นแรงหนุน 
กรมธุรกิจพลังงานโชว์ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก เติบโต 3.84% สะท้อน ศก.ไทยดีขึ้น ด้านโรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังไม่สดใส ยอดใช้ไม่กระเตื้องและเจอพิษราคาตกต่ำ เหลือผลิตแค่ 3 แห่ง
คปภ.ห่วง'ภัยไซเบอร์'ลุกลาม เร่งป้องธุรกิจประกันออนไลน์ 
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวในงานสัมมนา "การนำองค์กรเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล : การรับมือกับความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์" ว่า ภัยจากการจู่โจมทางไซเบอร์เกิดขึ้นได้กับทุกภาคส่วนและทุกแห่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ที่เกิดแล้วกับธุรกิจด้านโทรคมนาคมและธนาคารพาณิชย์ สำหรับการประกันภัยในไทย ขณะนี้ยังไม่เกิดปัญหาขึ้น แต่ในต่างประเทศเริ่มเกิดขึ้นแล้ว ขณะนี้ภาคประกันได้เตรียมออกประกาศกำหนดมาตรการต่างๆ สำหรับการขายประกันในรูปแบบออนไลน์
โซลาร์รูฟท็อปใช้กองทุนหมู่บ้าน 'พลังงาน'รอ'ศิริ' สั่งลุยหรือพับแผน เล็งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนซื้อขาย 
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ในครัวเรือนของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ยังไม่มีข้อสั่งการจากนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หากมีนโยบายจากผู้บริหารกระทรวงพร้อมดำเนินการศึกษาทันที ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นระบบไฟฟ้าของไทยที่ถูกออกแบบมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา บ้านเรือนจะเป็นผู้ซื้อไฟฟ้าใช้ แต่ เทรนด์ปัจจุบันบ้านเรือนสามารถผลิตไฟฟ้าขายเอง เป็นเรื่องใหม่ที่ต้องพิจารณาด้านเทคนิค อย่างกรณีนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้กองทุนหมู่บ้านเข้ามาดูแลก็เป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ
คลัง-เอกชนประสานเสียง วิกฤตค่าเงิน'ตุรกี'ไกลไทย 
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนรู้สึกกังวล และอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเหตุการณ์ค่าเงินตุรกีอ่อนค่า ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ส่งออก นำเข้า เนื่องจากการเคลื่อนค่าเงินของตุรกี จะกระทบค่าเงินโดยรวมในตลาดโลกเป็นลูกโซ่ ส่วนหนึ่งเป็นคู่ค้ากับประเทศไทยหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มยุโรป อินโดนีเซีย สหรัฐ จึงต้องติดตามเพื่อรองรับสถานการณ์ต่อไป ขณะที่ค่าเงินบาทอาจกระทบสั้นๆ เพราะสถานะการเงินของไทย ค่อนข้างแข็งแกร่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น