สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
สสว.ผนึก15เว็บขายสินค้า1บ. หนุนเอสเอ็มอีเจาะตลาดออนไลน์ ดีเดย์พ.ค.คาดเข้าร่วมแสนรายการ
สสว.จัดแคมเปญเอสเอ็มอี 1 บาท หนุนผู้ประกอบการเลือกสินค้าเข้าจำหน่ายบน เว็บไซต์ดัง 15 แห่ง ในราคาเพียงบาทเดียว เปิดขายทุกวันที่ 1 ของเดือน เริ่ม 1 พ.ค.-1 ก.ย. หวังกระตุ้นให้ขยายตลาดสู่ช่องทางออนไลน์ เผยราคาสินค้ามูลค่าไม่เกิน 3 พันบาท มีทั้งของกิน ของใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่พัก โรงแรม คาดเอสเอ็มอีเข้าร่วมมากกว่า 5 หมื่นราย สินค้า 1 แสนรายการ
สสว.จัดแคมเปญเอสเอ็มอี 1 บาท หนุนผู้ประกอบการเลือกสินค้าเข้าจำหน่ายบน เว็บไซต์ดัง 15 แห่ง ในราคาเพียงบาทเดียว เปิดขายทุกวันที่ 1 ของเดือน เริ่ม 1 พ.ค.-1 ก.ย. หวังกระตุ้นให้ขยายตลาดสู่ช่องทางออนไลน์ เผยราคาสินค้ามูลค่าไม่เกิน 3 พันบาท มีทั้งของกิน ของใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่พัก โรงแรม คาดเอสเอ็มอีเข้าร่วมมากกว่า 5 หมื่นราย สินค้า 1 แสนรายการ
กคช.ผุดมิกซ์ยูสรับสายสีเขียว
นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (ลำลูกกา คลอง 2) จำนวน 820 ยูนิต วงเงินลงทุนราว 903 ล้านบาท โดย กคช.สามารถดำเนินโครงการได้เมื่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวจะจัดสร้างบนพื้นที่กว่า 41 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณ ถนนเสมาฟ้าคราม (ลำลูกกาซอย 11) ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อยู่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย อาคารชุดสูง 4 ชั้น จำนวน 616 ยูนิต ขนาดพื้นที่ห้อง 27 ตารางเมตร มีลิฟต์โดยสาร ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 868,000 บาท ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จำนวน 34 ยูนิต ขนาดที่ดินประมาณ 20 และ 28 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 3,280,000-3,530,000 บาท และบ้านแฝดเชิงอิสระ 2 ชั้น จำนวน 170 ยูนิต ขนาดที่ดินประมาณ 35 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 3,500,000 บาท
นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (ลำลูกกา คลอง 2) จำนวน 820 ยูนิต วงเงินลงทุนราว 903 ล้านบาท โดย กคช.สามารถดำเนินโครงการได้เมื่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวจะจัดสร้างบนพื้นที่กว่า 41 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณ ถนนเสมาฟ้าคราม (ลำลูกกาซอย 11) ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อยู่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย อาคารชุดสูง 4 ชั้น จำนวน 616 ยูนิต ขนาดพื้นที่ห้อง 27 ตารางเมตร มีลิฟต์โดยสาร ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 868,000 บาท ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จำนวน 34 ยูนิต ขนาดที่ดินประมาณ 20 และ 28 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 3,280,000-3,530,000 บาท และบ้านแฝดเชิงอิสระ 2 ชั้น จำนวน 170 ยูนิต ขนาดที่ดินประมาณ 35 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 3,500,000 บาท
จีนทุ่ม60ล.เอื้อ'ซีแอลเอ็มวีที' ส่งเสริมเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง กระตุ้นลงทุนกลุ่มอนุภูมิภาค
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วม (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษ แม่โขง-ล้านช้าง และบันทึกความเข้าใจร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ระหว่างนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายหลู่ย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยว่า ทางรัฐบาลจีนได้สนับสนุนเงินงบประมาณจำนวน 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 60 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อดำเนินโครงการทางด้านเศรษฐกิจระหว่างซีแอลเอ็มวีที (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และไทย) และจีน ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์เสนอจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษข้ามพรมแดน โดยนำแนวคิดการทำโมเดลเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตการค้าเสรี เช่น เขตการค้าเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของจีนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีภูมิประเทศใกล้เคียงกับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมาเป็นต้นแบบ รวมถึงการจัดทำระบบข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันเสนอแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วม (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษ แม่โขง-ล้านช้าง และบันทึกความเข้าใจร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ระหว่างนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายหลู่ย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยว่า ทางรัฐบาลจีนได้สนับสนุนเงินงบประมาณจำนวน 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 60 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อดำเนินโครงการทางด้านเศรษฐกิจระหว่างซีแอลเอ็มวีที (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และไทย) และจีน ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์เสนอจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษข้ามพรมแดน โดยนำแนวคิดการทำโมเดลเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตการค้าเสรี เช่น เขตการค้าเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของจีนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีภูมิประเทศใกล้เคียงกับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมาเป็นต้นแบบ รวมถึงการจัดทำระบบข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันเสนอแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษ
อสังหาฯไทยยังเนื้อหอม ต่างชาติรุกเปิดโปรเจ็กต์
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 ตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ ยังคงคึกคักต่อเนื่อง และมีประเด็นสำคัญในตลาดที่น่าจับตามองอยู่หลายประเด็น ทั้งในแง่ของการลงทุน ราคาที่ดิน แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลัง และปีหน้า โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2561 มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ โดยผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และรายย่อยจำนวน 14,094 หน่วย จาก 31 โครงการ ซึ่งเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้มีจำนวนห้องชุดทั้งหมดในตลาด อยู่ที่ 564,000 หน่วย และจากการที่ที่ดินในใจกลางเมืองมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถหาที่ดินพัฒนาโครงการได้เหมาะสม สำหรับในครึ่งปี หลังนี้น่าจะเห็นโครงการใหม่เกิดขึ้นบริเวณแจ้งวัฒนะ และรามอินทรามากขึ้น จากแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 ตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ ยังคงคึกคักต่อเนื่อง และมีประเด็นสำคัญในตลาดที่น่าจับตามองอยู่หลายประเด็น ทั้งในแง่ของการลงทุน ราคาที่ดิน แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลัง และปีหน้า โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2561 มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ โดยผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และรายย่อยจำนวน 14,094 หน่วย จาก 31 โครงการ ซึ่งเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้มีจำนวนห้องชุดทั้งหมดในตลาด อยู่ที่ 564,000 หน่วย และจากการที่ที่ดินในใจกลางเมืองมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถหาที่ดินพัฒนาโครงการได้เหมาะสม สำหรับในครึ่งปี หลังนี้น่าจะเห็นโครงการใหม่เกิดขึ้นบริเวณแจ้งวัฒนะ และรามอินทรามากขึ้น จากแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
'ซีพีเอฟ'บุกลงทุนบราซิล ลุยขยายธุรกิจกุ้งครบวงจร
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนกับบริษัท Camanor Produtos Marinhos Ltda. ซึ่งดำเนินธุรกิจฟาร์มและแปรรูปกุ้งชั้นนำของบราซิล เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จำนวน 4,666,667 หุ้น คิดเป็น 40% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง มูลค่ารวม 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 547 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายการจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ลงนามในสัญญา โดยบริษัทดังกล่าวมีช่องทางจำหน่ายสินค้าภายในประเทศบราซิลและส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และเป็นบริษัทมีประสบการณ์ทางการตลาดสูงและเป็นเจ้าของนวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งความหนาแน่นสูงในระบบปิด "AquaScience" ซึ่งเป็นระบบการเลี้ยงกุ้งที่ทันสมัยให้ผลผลิตต่อพื้นที่การเลี้ยงสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะ เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านพันธุ์กุ้งของซีพีเอฟ จะช่วยสร้างเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตกุ้งและการตลาดกุ้งของ ทั้งสองบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคง
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนกับบริษัท Camanor Produtos Marinhos Ltda. ซึ่งดำเนินธุรกิจฟาร์มและแปรรูปกุ้งชั้นนำของบราซิล เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จำนวน 4,666,667 หุ้น คิดเป็น 40% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง มูลค่ารวม 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 547 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายการจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ลงนามในสัญญา โดยบริษัทดังกล่าวมีช่องทางจำหน่ายสินค้าภายในประเทศบราซิลและส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และเป็นบริษัทมีประสบการณ์ทางการตลาดสูงและเป็นเจ้าของนวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งความหนาแน่นสูงในระบบปิด "AquaScience" ซึ่งเป็นระบบการเลี้ยงกุ้งที่ทันสมัยให้ผลผลิตต่อพื้นที่การเลี้ยงสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะ เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านพันธุ์กุ้งของซีพีเอฟ จะช่วยสร้างเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตกุ้งและการตลาดกุ้งของ ทั้งสองบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น