วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 ก.พ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แบงก์จ่อรวมตู้เอทีเอ็ม เร่งลดต้นทุนรับ'ดิจิตอล'หนุนปั๊มรับฝาก-ถอนเงิน
น.ส.อัจจนา ล่ำซำ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยด้านเครือข่ายวิจัยและการสื่อสาร สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างศึกษาปรับเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มจากหลากหลายธนาคาร มาเป็นตู้เอทีเอ็มสีขาว (ไวท์ เลเบิล เอทีเอ็ม) โดยไม่ระบุชื่อธนาคาร มีลักษณะเป็นการรวมธุรกรรมรับฝากเงิน ถอนเงินของทุกธนาคารมาไว้ในตู้เดียว เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของธนาคารในยุคดิจิตอล และการเข้ามาของแบงก์กิ้งเอเย่นต์ รวมถึงโครงการอีเพย์ เมนต์ ลดใช้เงินสด รวมทั้งในปัจจุบันตู้เอทีเอ็มยังกระจุกตัวอยู่ และมีความทับซ้อนในการให้บริการทางการเงินประเภทเดียวกันจนเกิดความไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นหลักฐานสำคัญต่อนโยบายปรับเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มมาเป็นแบบรวมทุกธนาคารในตู้เดียว
ศก.ดีเพชรดันยอดโต5%
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา ยี่ห้อตราเพชร เปิดเผยว่า ปี 61นี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 5% จากมูลค่า 4,184 ล้านบาท ในปี 60 ที่เติบโตได้ 1.2-1.3% โดยปัจจัยหลักปีนี้เกิดจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศตามนโยบายการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ที่ส่งผลดีกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคและช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี
'ภากร'นั่งผู้จัดการตลท.สานต่อพัฒนาตลาดทุน
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ตลท.มีมติแต่งตั้ง นายภากร ปีตธวัชชัย เป็นกรรมการและผู้จัดการ ตลท. คนที่ 13 มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.61-31 พ.ค. 65 ต่อจากนางเกศรา มัญชุศรี ที่ครบวาระวันที่ 31 พ.ค.นี้ เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านตลาดเงินตลาดทุนที่สามารถสานต่อนโยบายของ ตลท. ส่งเสริมการขยายตัวของตลาดทุนไทยในยุคดิจิตอล และเชื่อมโยงกับตลาดทุนโลก ขับเคลื่อนงานตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งพัฒนาตลาดทุน ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพได้
ไทยแห่เที่ยวนอก8.79ล้านคน
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้สรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งปี 60 มีทั้งหมด 8.79 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.23% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีวงเงินใช้จ่ายออกนอกประเทศอยู่ที่ 276,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.59% โดยคนไทยเดินทางไปเที่ยวเอเชียตะวันออกมากที่สุดถึง 7.39 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.59% มีค่าใช้จ่ายรวมกัน 200,716 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.58%
ส่งออกม.ค.พุ่งกระฉูด17.6%
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ม.ค. 61 มีมูลค่า 20,101.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.6% เป็นการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 62 เดือน หรือ 5 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 55 ที่การส่งออกขยายตัว 26.83% และถือเป็นการเริ่มต้นได้ดีของปีที่การส่งออกขยายตัวได้ดี แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเงินบาทแข็งค่า แต่ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ดังนั้นมั่นใจว่าตั้งแต่ปี 61 การส่งออกไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 8% แน่นอน
รีดภาษีก๊าซคาร์บอนฯจยย.เพิ่มอีกคันละ150-250บาท เชื่อไม่กระทบราคาขายปลีก
รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯคาดว่าการพิจารณาจัดเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะทำให้มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นเพียงคันละ 150-250 บาท แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเพิ่มราคาขายปลีกรถจักรยานยนต์ และทำให้ผู้บริโภค ผู้มีรายได้น้อยได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากผู้ผลิตอาจเลือกรับภาระภาษีไว้เอง
เมืองไทยฯรุกประกันสุขภาพ เจาะ'ไฮโซ'คุ้มครองร้อยล้าน
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทยังวางแผนรุกตลาดประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยได้เปิดตัวโปรแกรม เฮลธี อิส อะเทรนด์ เพื่อปลุกกระแสการสร้างสังคมแห่งการดูแลชีวิตและสุขภาพแบบครบวงจร ทั้งด้านการสร้างสุขภาพที่ดี การคุ้มครองป้องกัน และการดูแล ด้วยสิทธิพิเศษ พร้อมกับเปิดตัว เป๊ก ผลิตโชค เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อช่วยขยายส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ติด 1 ใน 3 บริษัทที่มีเบี้ยประกันสุขภาพสูงสุด
นัดหารือกฤษฎีกา ออกกฎคุมไอซีโอ
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.พ. ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเข้าหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อปรึกษาในประเด็นข้อกฎหมายที่จะออกมาใช้กำกับดูแลการระดมสินทรัพย์ด้วยสกุลเงินดิจิตอล (ไอซีโอ) ให้ชัดเจน ซึ่งสรุปจบภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยให้ ก.ล.ต.เป็นฝ่ายกำกับดูแล พร้อมกับเป็นผู้แถลงรายละเอียดข้อกฎหมาย และแนวทางการควบคุมดูแลทั้งหมด ซึ่งจะครอบคลุมการกำกับดูแลทั้งการออกไอซีโอของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น