สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ปัญหาแบงก์โคม่าต้องจบเร็ว
เรื้อรังลามการเงินทั้งระบบ
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสำนักวิจัยและที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ตลาดทุนจับจ้องมาที่ธนาคารเครดิตสวิส หลังราคาหุ้นร่วงหนัก คนพร้อมแห่ถอนเงิน นักลงทุนในตราสารหนี้ห่วงธนาคารจะผิดนัดชำระหนี้ มีโอกาสลามใหญ่กว่าธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ และยังมีหลายธนาคารขนาดใหญ่ในยุโรปที่ไม่แข็งแกร่งหรือมีปัญหาขาดทุนมาก่อนหน้าแล้วทำให้ในขณะนี้ต้องติดตามว่าธนาคารแห่งไหนจะล้มเป็นรายต่อไป
ดันกัญชงโกอินเตอร์รุกธุรกิจก่อสร้าง
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ได้จัดทำมาตรฐานกัญชงเพิ่มเติมอีก 2 มาตรฐาน ได้แก่ มอก.3490-2565 มาตรฐานเฮมป์ครีตบล็อกและ มอก.3553-2566 มาตรฐานเฮมป์พาร์ทิเคิลบอร์ดซึ่งเป็นการนำแกนกัญชงไปแปรรูปเป็นสินค้าวัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ ที่มีความแข็งแรงน้ำหนักเบาแต่ยังคงรักษาคุณภาพและมาตรฐานโดยมีต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับวัสดุก่อสร้างประเภทอื่นและยังเป็นการนำวัสดุเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลด้านบีซีจี
ชี้สลาก 3-6 หลักพ่ายหวยใต้ดิน
จ่ายเยอะมีเครดิต-ส่วนลดเพียบ หนุนเล่นพนันเงินสะพัด 4 แสนล.
นายวิษณุวงศ์ สินศิริกุล นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์เปิดเผยถึงประเด็น ครม.เห็นชอบให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถออกผลิตภัณฑ์สลากแบบใหม่ลอตเตอรี่ 6 หรือแอล 6 และสลากเลข 3 หลักหรือเอ็น 3 ว่ามีความกังวลว่าจะไม่ช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดินและสลากเกินราคาได้จริงโดยในส่วนของสลากเอ็น 3 มองว่าไม่น่าจะแข่งขันกับหวยใต้ดินได้เพราะหวยใต้ดินมีแรงจูงใจคนซื้อได้ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นการซื้อด้วยเครดิตการมีส่วนลดให้ 20% ที่สำคัญยังมีเงินรางวัลที่ชัดเจนแน่นอนเช่น หากถูก ก็จ่ายบาทละ 60 บาทละ 600 เป็นต้น ไม่เหมือนกับสลากเลข 3 ตัวที่มีเงินรางวัลผันแปรไปตามยอดขายและจำนวนผู้ถูกรางวัลมีความไม่แน่นอน
เฮ! ธอส.ตรึงดบ.กู้ยาวถึงกลางปี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ระบุสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านได้นานจนถึงกลางปีนี้ ขณะที่แรงกดดันจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นน่าจะบรรเทาลง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านของ ธอส. โดยเฉลี่ย 4.25% ซึ่งได้ปรับขึ้นมา 0.25% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และไม่เป็นภาระต่อผลดำเนินงานของธนาคาร
สงครามไม่จบแนะส่งออกไทยหาคู่ค้าใหม่
นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้ติดตามผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อจนถึงปัจจุบันพบว่าผลกระทบทางตรงต่อภาคการส่งออกของไทยมีเพียงเล็กน้อยจากมูลค่าการค้ารวมการส่งออกและนำเข้าของไทยกับรัสเซีย-ยูเครนที่มีสัดส่วนประมาณ 0.5% เทียบกับการค้าทั้งหมดแต่ไทยจะได้รับผลกระทบทางอ้อมมากกว่าเนื่องจากรัสเซีย-ยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกพลังงานรวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ในตลาดโลกกระทบต่อวงกว้างทั่วโลกรวมถึงผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงต้นทุนการผลิตและการขาดแคลนวัตถุดิบส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้นและทำให้ห่วงโซ่หยุดชะงักอีกทั้งความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศการค้าและการลงทุน โดยอุตฯ ที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานต่อต้นทุนรวมในการผลิตสูงได้แก่ อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก 30.56% เหล็กและเหล็กกล้า 20.03% ผลิตภัณฑ์พลาสติก 10.48% ยางรถยนต์ 7.37% และเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 5.61%
คิงสเตลล่าสยายปีก ดันรายได้ทะลุ 2 พันล.
นายชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คิงสเตลล่า กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสเปรย์ปรับอากาศคิง สเตลล่า เปิดเผยว่า ในปี 68 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้ 2,000 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศจาก 15% เป็น 30% หลังจากปัจจุบันเน้นขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้นด้วยการลงทุนเข้าไปตั้งออฟฟิศแล้วทำตลาดเอง อาทิ อินเดียและเวียดนามที่เข้าไปแล้ว และไตรมาส 4 ปีนี้เข้าไปในฟิลิปปินส์ จากนั้นเข้าไปมาเลเซียปลายปี 67 หลังจากที่ผ่านมาขายผ่านตัวแทนจำหน่ายใน 13 ประเทศ
นักลงทุนญี่ปุ่นย้ายกลับซบไทย ยาหอมฐานผลิตสำคัญในอาเซียน
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันประกอบ ด้วย ส.อ.ท. สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่าได้ประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าและเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกับสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นหรือเคดันเร็นซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเบื้องต้นทางเคดันเร็นได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชนไทย-ญี่ปุ่น มีบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในการประชุมครั้งนี้ได้แลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายสนใจร่วมกัน ผู้แทนฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้เห็นชอบลงนามเอ็มโอยูระหว่างกันจะส่งเสริมความร่วมมือให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงผลักดันประเด็นที่ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความสำคัญต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น