สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
มั่นใจแบงก์อุ้มชูรายย่อยแน่
กนง.ขึ้นดอกเบี้ยทะยาน 1.50%
นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.25% เป็น 1.50% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ซึ่งเป็นการประชุม 25 ม.ค. เป็นนัดแรกของปี และครั้งนี้เป็นการขึ้นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่การประชุมรอบเดือน ส.ค.65 โดยขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% รวมที่ได้ขึ้นมาแล้ว 1%
เปิดเกณฑ์ใหม่คุมโทเคน
รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นการกำกับดูแลโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ที่มีลักษณะพร้อมใช้ หรือยูทิลิตี้ โทเคน พร้อมใช้ ในตลาดแรกและตลาดรอง ให้สอดคล้องลักษณะวัตถุประสงค์การใช้งาน และความเสี่ยงในแต่ละประเภทให้มีกลไกคุ้มครองที่เหมาะสม และสนับสนุนนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจดิจิทัล คาดจะบังคับใช้ในไตรมาส 2 นี้
ผลิตไฟหมื่นเมกะวัตต์ บี.กริมดันรายได้แสนล.
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 73 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 3,300 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตกว่า 100,000 ล้านบาท โดยจะเดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ เน้นการลงทุนพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก อยู่ระหว่างแสวงหาการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมในหลายประเทศทั่วโลก เช่น เวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงยุโรป เพื่อกระจายความเสี่ยงจากต้นทุนพลังงาน คาดทำให้สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในปี 73 กว่า 50% ปัจจุบันอยู่ที่ 25% ที่เหลือมาจากก๊าซธรรมชาติ 75%
ธุรกิจตั้งใหม่พุ่ง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ประจำปี 65 มี ผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ ทั่วประเทศ 76,488 ราย เพิ่มขึ้น 3,530 ราย หรือเพิ่มขึ้น 5% ส่วนมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 429,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาท หรือ 87.04% โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 7,061 ราย รองลงมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,833 ราย และธุรกิจในภัตตาคาร ร้านอาหาร 3,014 ราย
เอกชนรุมสับค่าไฟแพง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในงานสัมมนาไทยแลนด์ นิว เอพพิโซด บทใหม่ประเทศ ไทย 2023 เรื่องนิว เอพพิโซด เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย ว่า ไทยสูญเสียขีดความสามารถทางการแข่งขันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ล่าสุด ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ปรับมาอยู่ที่เฉลี่ย 5.33 บาทต่อหน่วย ทำให้ต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการดึงการลงทุนจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ ส่งผลให้เวียดนามยิ่งมีแต้มต่อมากขึ้นไปอีก ล่าสุดได้ลดเหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย สวนทางกับไทย หากไทยยังมีค่าไฟที่แพง การลงทุนต่างประเทศที่ไหนจะมาไทย หากไม่เร่งแก้ไขอาจจะทำให้ไทยเสียขีดความสามารถทางการแข่งขันแบบถาวร
แจงกม.ปราบโจรไฮเทค
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึงกรณีที่ ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า เมื่อกฎหมายบังคับใช้แล้วเชื่อมั่นว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ดีขึ้นจากเดิมแน่นอน โดยเฉพาะ พ.ร.ก. นี้ ได้ให้อำนาจแก่หน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกรรมทางการเงิน หรือบรรดาสถาบันการเงินต่างๆ สามารถระงับการทำธุรกรรมทางการเงินในช่วงเวลาหนึ่ง กรณีที่พบพฤติกรรมผิดปกติหรือเมื่อมีผู้ร้องเรียนต่อธนาคาร และให้อำนาจธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเปิดเผย เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดออนไลน์ผ่านระบบฐานข้อมูลกลางได้ ซึ่งจะเป็นการป้องกัน ระงับ ยับยั้ง การก่ออาชญากรรมออนไลน์ได้ทันท่วงทีมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น