วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 08 ก.พ. 2565

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

โนเกียขายแท็บเล็ตในไทย
นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (เอชเอ็มดี) ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือโนเกีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการแท็บเล็ตทั่วโลก รวมถึงในไทยมีเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมการใช้งาน ทั้งการเรียนออนไลน์และการทำงานที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮม หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยปี 64 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดขายแท็บแล็ต จำนวน 170 ล้านเครื่องแบ่งเป็นกลุ่มการใช้งานเป็นผู้ชาย 55% และผู้หญิง 45% ซึ่งรายงานของเคาน์เตอร์พอยท์ ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการใช้แท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 53% ในช่วงไตรมาส 1 ปี 64 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 63 ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดแท็บเล็ตในไทย

คปภ.แจงจ่ายประกันโควิด
'ค่ารักษา-ชดเชย' ผู้ป่วยใน ชี้เจอจ่ายจบจ่ายเหมือนเดิม
นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีสมาคมประกันชีวิตไทยได้ออกแนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองการประกันสุขภาพ สำหรับผู้เอาประกันที่ติดเชื้อโควิดใหม่ มีผลตั้งแต่ 15 ก.พ.65 ว่า การออกแนวปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโควิด รูปแบบผู้ป่วยในของกระทรวงสาธารณสุข ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ไปเมื่อ 4 ม.ค.65 ส่งผลให้เงื่อนไขการจ่ายเคลมค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันสำหรับผู้ป่วยโควิดปรับเปลี่ยนไปด้วย

ส่งบูโรโอเคเช็กการเงิน
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า เครดิตบูโรได้เพิ่มช่องทางบริการตรวจเครดิตบูโรออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น บูโร โอเค รับรายงานทางอีเมลได้ทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่งของตนเองได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ทราบประวัติทางการเงินของตนเอง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อให้รู้เท่าทันภัยทางการเงินในรูปแบบต่างๆ สามารถวางแผนการเงิน รู้ประวัติการชำระหนี้ และการเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อต่างๆ จากสถาบันการเงิน

ชี้หุ้นเมินการเมืองห่วงศก.
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า จากปัญหาด้านเสถียรภาพทางการเมือง หรือหากรัฐบาลยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากนักลงทุนคุ้นเคยกับปัญหาการเมืองภายในประเทศดีจึงไม่ตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ และหากเกิดความวุ่นวายและบ้านเมืองไม่สงบขึ้นก็อาจกระทบบ้าง แต่ในภาพรวมระยะนี้นักลงทุนต้องให้ความสำคัญกับประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากกว่า

เห็นพ้องกนง.คงดอกเบี้ย หวังพยุงเศรษฐกิจฟื้นตัว
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการและผู้บริหารกลุ่มวิจัยและวิเคราะห์ตลาดเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% อีกครั้ง แม้กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ม.ค.พบว่าเพิ่มขึ้นอัตราสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 3.23% ก็ตาม แต่สาเหตุหลักเงินเฟ้อเพิ่มจากต้นทุนด้านพลังงานเป็นหลัก ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.52% และเชื่อว่าทิศทางค่าเงินบาทจะมีผลบวกจากกระแสข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดไม่ล็อกดาวน์และเริ่มให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ

อ่วม! ตรึงสินค้าได้อีก 2 เดือน
จี้รัฐลดค่าน้ำค่าไฟค่าเดินทาง มองของแพงยาวถึงสิ้นปีแน่
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจเอฟทีไอ โพล หัวข้อ สินค้าแพง ค่าครองชีพพุ่ง จะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไร โดยสอบถามผู้บริหาร 150 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมและ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ว่าหากราคาพลังงานยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ผู้ประกอบการมองว่า สามารถตรึงราคาสินค้าได้อีกแค่ 1-2 เดือนเท่านั้น จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยการลดค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำประปา, ค่าเดินทาง รวมทั้งลดภาระภาษีและค่าธรรมเนียม เช่น ภาษีสรรพสามิตเชื้อเพลิง และสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพอื่นๆ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในช่วงนี้

ออมสินโชว์สินทรัพย์ 3 ล้านล.
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าผลดำเนินงานปี 64 มียอดสินทรัพย์รวม 3 ล้านล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ มียอดเงินฝากรวม 2.57 ล้านล้านบาท ยอดสินเชื่อรวม 2.27 ล้านล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 590,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.06% นอกจากนี้ยังควบคุมหนี้เสียให้ต่ำ 2.5% ของสินเชื่อรวม และมีเงินสำรองเพื่อรองรับความเสียหายจากหนี้เสียรวม 93,000 ล้านบาท สูงที่สุดในรอบหลายปี คิดเป็นสัดส่วนต่อหนี้เสีย 165.09%

โรงแรมผวา! ระแวงโควิด-19 ชี้ 53% มีสภาพคล่อง 3 เดือน
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ม.ค.65 ซึ่งร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำรวจวันที่ 10-26 ม.ค.65 จากผู้ตอบแบบสำรวจ 200 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ เอคิว 18 แห่ง และฮอสพิเทล 7 แห่ง พบว่าโรงแรม 42% ยังกังวลต่อผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมาก โดยโรงแรม 175 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็นเอคิวและฮอสพิเทล) เปิดกิจการปกติ 73% ใกล้เคียงเดือน ธ.ค.64 ที่ 74% โดยโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวมีสัดส่วน 3% ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่ปิดมามากกว่า 6 เดือน และคาดจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งครึ่งหลังนี้ เป็นต้นไป

ชี้เป้าส่งออกซาอุฯ ดันแสนล.
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ได้ทำการศึกษาลู่ทางโอกาสการส่งออกสินค้าไปตลาดซาอุดีอาระเบีย หลังมีการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยคาดการณ์จะช่วยเพิ่มโอกาสส่งออกไปตลาดซาอุฯ กลับไปเหนือระดับ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ไทยมีการส่งออกไปซาอุฯ สูงสุด ปี 57 อีกทั้งยังคาดการณ์ปี 65 การค้าทั้ง 2 ประเทศ จะอยู่ที่ 280,336 ล้านบาท ขยายตัว 20.3% โดยการส่งออกจะมีมูลค่า 54,678 ล้านบาท ขยายตัว 6.2% การนำเข้า 225,658 ล้านบาท ขยายตัว 24.3% และขาดดุลการค้า 170,980 ล้านบาท

ไมโลรุกนมถั่วเหลือง รับ 'แพลนต์เบส' บูม
นายไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) เปิดเผยว่าบริษัทได้ใช้งบการตลาด 150 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มไมโล นมถั่วเหลือง ซึ่งวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นประเทศแรกและถือเป็นครั้งแรกของการเข้าสู่ตลาดนมถั่วเหลือง โดยเน้นจับกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 6-12 ปีเป็นหลัก อีกทั้งยังรองรับความต้องการในตลาดที่กระแสนมถั่วเหลืองหรือนมจากพืชมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีนี้ที่เทรนด์แพลนต์เบสกำลังมาแรงรวมไปถึงมุ่งจับกลุ่มที่แพ้นมวัวอีกด้วยตั้งเป้าหมายในระยะแรกนี้จะมียอดขายติด 1 ใน 5 ของตลาด

จ่อคุมเหล็กเคลือบกันสนิม
นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิด เผยว่า กมอ.มีมติเห็นชอบให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ปรับปรุงมาตรฐานเหล็ก 2 รายการ ได้แก่ เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก.50-25xx และเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก.2228-25xx เนื่องจากเหล็กดังกล่าวเป็นวัตถุดิบสำคัญที่นำไปใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูปเย็นเคลือบโลหะ ท่อเหล็กกล้าเคลือบโลหะ ชิ้นส่วนรถยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และเตรียมเร่งรัดให้ยกระดับเป็นสินค้าควบคุม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น