วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 10 ก.ย. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
ธอส.ผุดตลาดกลางบ้านมือสอง
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดทำโครงการ จีเอช แบงก์ มาร์เก็ต เพลส ตลาดกลางบ้านมือสอง เปิดให้ประชาชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ต้องการลดภาระการผ่อนชำระ สามารถนำที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และห้องชุด มาฝาก ธอส. จำหน่าย รวมถึงประมูลผ่านช่องทางของ ธอส.ให้สามารถจำหน่ายได้ง่ายขึ้น
แฉ 'ภาครัฐ' จ่ายเงินเอกชนช้า
ฉุดสภาพคล่องสะดุดกึก
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือนก.ค. ว่า ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ หรือรสก.เร่งเบิกจ่ายเงินโครงการที่ผู้ประกอบการที่ได้ส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว ภายใน 30 วัน รวมทั้งให้สามารถโอนสิทธิการรับเงินให้กับธนาคารได้ด้วย เนื่องจากปัจจุบันหลายหน่วยงานของรัฐ รวมถึงภาครัฐมีการเบิกจ่ายล่าช้าหลายหน่วยงานใช้เวลาถึง 2-4 เดือน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอีได้อย่างมาก
ตลท.สนับสนุนระดมทุน ให้ปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าได้ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ แคร์ เดอะ ไวด์ ปลูกป้อง แพลนแอนด์โปรเทค เพื่อพัฒนาดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการเพิ่มป่า ผ่านการระดมทุนร่วมปลูกต้นไม้ใหม่ ปลูกต้นไม้เสริม และส่งเสริมการดูแลต้นไม้ ด้วยใช้สัญลักษณ์ช้างรักษ์ป่า พี่ปกป้อง เชิญชวนให้ภาครัฐและเอกชน ร่วมกันปลูกต้นไม้และดูแลต้นไม้ที่ปลูกให้เติบโตบนหลักการธรรมาภิบาล ภายใน 1 ปี ปลูกป่า 500 ไร่ จากต้นไม้ที่ปลูก 1 แสนต้น ช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก 9 แสนกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
ยาหอมไทยแก้ของปลอม
นายไมเคิล ฮีธ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า พอใจกับการทำงานของทางการไทยในการแก้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา แต่สิ่งที่ยังห่วงคือ การซื้อ และใช้สินค้าปลอม โดยเฉพาะหมวดยา อาหาร และเครื่องสำอาง ซึ่งหากใช้แล้ว อาจเป็นอันตรายมากสำหรับผู้บริโภค ส่วนปัญหาการละเมิดบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในไทย ก็ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีการละเมิดภาพยนตร์ และเพลง ซึ่งทราบว่า ไทยมีกฎหมายป้องกันเรื่องนี้แล้ว แต่หวังว่าทางการไทยจะเดินหน้าปราบปรามการละเมิดให้เข้มงวดขึ้น และอาจทำให้ไทยหลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตา (ดับเบิลยูแอล) ได้ในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น