วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 10 ก.ย. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน 
ททท.กระตุ้นเที่ยวทะลุ4แสนล.
เล็งผนึกกำลังฟื้นฟู-เพิ่มความถี่ ผุดโปรเจ็กต์หนุนวันธรรมดาคึก
ททท.เปิดยอดท่องเที่ยว 6 เดือน คนไทยเดินทาง 28 ล้านคน สร้างรายได้ 2 แสนล้านบาท ติดลบ 62% คาดทั้งปี 68 ล้านคน รายได้พุ่ง 4 แสนล้านบาท เล็งเดินหน้าหาพันธมิตรช่วยฟื้นฟู เพิ่มความถี่ จำนวนวันพัก เชื่อปลายปีคึกคัก จ่อผุดโครงการหนุนเที่ยววันธรรมดา
โรคระบาดหมูลามภาคเหนือ 'ประภัตร'เรียกผู้เลี้ยงถกด่วน
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญสมาคมผู้เลี้ยงหมูเข้าหารือแนวทางรับมือการระบาดของไวรัสในหมูที่เกิดขึ้นในภาคเหนือในหลายจังหวัด อาทิ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ตาก เป็นต้น หลังศูนย์วิจัยและพัฒนาสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน และปศุสัตว์จังหวัดลง พื้นที่พบหมูตายจำนวนมาก เบื้องต้นพบหมูติดเชื้อไวรัสพีอาร์อาร์เอส หรือเรียกว่าโรคเพิร์ส เป็นโรคระบาดหมูที่ไม่ติดต่อสู่คน โดยสั่งให้ปศุสัตว์จังหวัดแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีหมูป่วยตายอย่านำหมูไปจำหน่ายหรือบริโภค ตามขั้นตอนการตัดตอนโรคระบาดของกรมปศุสัตว์ เพื่อไม่ให้โรคระบาดกระจายเป็นวงกว้าง
พลังงานลุยซื้อไฟฟ้าชุมชน
เร่งชงกพช.ก่อนประกาศสิ้นปี เดินหน้าวางโรดแมป3ระยะ
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงโครงการรับซื้อไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชุมชนว่า เบื้องต้นจะเปิดรับซื้อ 100-200 เมกะวัตต์ ขณะนี้กำลังปรับปรุงกรอบการรับซื้อใหม่ ภายใต้อัตรารับซื้อตามต้นทุนแท้จริง (เอฟไอที) อัตราเดิม จะดำเนินการเสร็จปลายเดือนกันยายนนี้ และนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดือนตุลาคม มั่นใจว่าจะประกาศรับซื้อสิ้นปีนี้ การลงทุนจะเกิดขึ้นได้ปี 2564 โดยหลักเกณฑ์สำคัญ คือ ดูถึงโครงข่ายสายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กฟผ.จะต้องเพียงพอ ข้อตกลงการซื้อพืชพลังงาน เน้นให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ส่วนนโยบายเดิมที่กำหนดให้ชุมชนร่วมถือหุ้นโรงไฟฟ้า 10-40% นั้น อาจดำเนินการได้ยาก อาจปรับรูปแบบเป็นให้โรงไฟฟ้ารับซื้อพืชพลังงานในราคาที่สูงกว่าราคาทั่วไป วิธีการนี้ชุมชนจะได้ประโยชน์ เพิ่มขึ้น
จับตาราคาทองคำโลกผันผวน ปัจจัยต่างประเทศกดดันดีดตัว
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท หลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของการลงทุนในทองคำว่า จากความผันผวนของราคาทองคำ แนะนำให้หาจังหวะขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้น เนื่องจากทองคำปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ตอบรับกระแสข่าวเชิงลบที่ออกมา ทำให้มีความกังวลเพิ่มขึ้นถึงการจบรอบราคาทองคำขาขึ้น จึงแนะนำให้ลดสถานะและขายออกเมื่อราคาปรับตัวขึ้น โดยคาดกรอบราคาทองคำสปอตในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ระดับ 1,900-1,950 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งต้องยอมรับว่าราคาทองคำโลกในเดือนสิงหาคมปรับตัวลง 7.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยระหว่างเดือนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 2,074 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากสหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่ ซึ่งมีวงเงิน 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และจะเน้นช่วยเหลือเด็กให้กลับมาเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง รวมถึงช่วยเหลือพนักงานกลับมาทำงาน อีกทั้งปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน
ตลท.ช่วยลดโลกร้อน ต่อยอดแพลตฟอร์ม 'ปลูกต้นไม้ให้ได้ป่า'
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตลท.ได้พัฒนาแพลตฟอร์มส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยริเริ่มโครงการแคร์ เดอะ ไวด์ ปลูกป้อง แพลนแอนด์โปรเท็กต์ (Care the Wild ปลูกป้อง Plant & Protect) ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือ ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการเพิ่มพื้นที่ป่า โดยมีกลไกการดำเนินงานผ่านการระดมทุนในการปลูกต้นไม้ใหม่ ปลูกต้นไม้เสริม และส่งเสริมการดูแลต้นไม้ ร่วมกับภาคีองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน มีสัญลักษณ์ช้างรักษ์ป่าในชื่อ "พี่ปลูกป้อง" เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมเรียนรู้เรื่องระบบนิเวศ พืช สัตว์ สิ่งแวดล้อม และร่วมระดมทุนปลูกต้นไม้
ส.แอลกอฮอล์ค้านกม.ใหม่ โวยห้ามขายผ่านออนไลน์
นายธนากร คุปตจิตต์ นายกสมาคมธุรกิจ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย หรือ TABBA กล่าวถึงกรณีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 และจะมีผลใช้บังคับนับตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไปว่า เมื่อวันอังคารที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นประกาศที่ขัดแย้งและไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐในการเว้นระยะห่าง และไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่จะขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล ที่ต้องการเน้นการใช้การบริการของรัฐแบบอี-เซอร์วิส ซึ่งเป็นการไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์เป็นอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น