วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 ส.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
เอกชนชงครม.ระยอง 4 ด้าน
ดันเกษตร-ท่องเที่ยวแสนล.
นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. สัญจรที่ จ.ระยอง วันที่ 24-25 ส.ค. 63 นี้ ภาคเอกชนจะเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก 4 ด้านหลักประกอบการ การพัฒนาน้า, โครงสร้างพื้นฐาน, การท่องเที่ยว และภาคเกษตร เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของภาคตะวันออกขยายตัวอย่างยั่งยืนในทุกด้าน ไม่ใช่เฉพาะภาคอุตสาหกรรมด้านเดียว โดยงบประมาณและจำนวนโครงการนั้นต้องมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งระหว่างภาคเอกชน กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกัน
นอนแบงก์ร่วมอุ้มรายย่อย
นายธีรธร ธุวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า ลีสซิ่ง เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมวงเงินสินเชื่อโครงการ (โปรเจ็กท์ ไฟแนนซ์) ทั้งสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่อง และสินเชื่อลีสซิ่งกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนให้กับเอสเอ็มอีที่มีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือมีสัญญาซื้อขายสินค้าและบริการกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เพื่อให้มีเงินทุนผลิตสินค้า หรือมีแผนขยายธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำรอง เป็นการช่วยเหลือสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ต้องการสภาพคล่องจากวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้
ขายพันธบัตร 5 หมื่นล้านบ. คลังเสริมแกร่งเงินคงคลัง
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติม 2 รุ่น วงเงิน 50,000 ล้านบาท ประกอบด้วย รุ่นวอลเล็ต สบม. ครั้งที่ 2 วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 1.70% ต่อปี จำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เท่านั้น ผู้ลงทุนโอนเงินจากพร้อมเพย์ทุกธนาคารเข้าวอลเล็ต เพื่อซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ได้ ซื้อสูงสุดรายละ 5 ล้านบาท ที่สำคัญยังเปิดให้เด็ก 15 ปีขึ้นไปซื้อเริ่มต้นเพียง 100 บาทจำหน่ายวันที่ 25 ส.ค.-11 ก.ย.63 นี้
'ตำรับไทย' เปิดแอพลด 5% ลดใช้เงินสด
นายมหาคุณ เทพสุทิน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตำรับไทย สมุนไพร เปิดเผยว่า ภายในเร็ว ๆ นี้ บริษัทจะเปิดแอพพลิเคชั่น ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าสมุนไพรทุกประเภทผ่านแอพ พร้อมได้รับส่วนลด 5% เพื่อให้สอดรับกับยุคนิวนอร์มัล ขณะที่การซื้อด้วยเงินสดยังได้รับส่วนลด 3% เหมือนเดิม โดยขณะนี้ยอดขายเริ่มติดลบน้อยลงแล้วตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่าทั้งปีนี้ยอดขายของผู้ประกอบการในร้านตำรับไทยจะมีมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนรายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท เติบโตประมาณ 5% ซึ่งถือว่าดีแล้ว ขณะที่มูลค่าของตลาดสมุนไพรไทยอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท
บิวตี้หนีตายหั่นราคา 70% ขยายแคมเปญ 6 สัปดาห์
นายกิตติพนธ์ นามพิชญ์ธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิสออฟบิวตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าความงามและบำรุงผิว ยี่ห้อมาลิสสา คิส, มุนอา เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินค้าความงามปีนี้ผู้ประกอบการทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่หันมาใช้กลยุทธ์สงครามราคากันอย่างดุเดือดลดสูงสุด 70% ซึ่งถือเป็นการลดมากที่สุดจากปกติลดประมาณ 50% อีกทั้งยังขยายเวลาจัดแคมเปญให้นานขึ้นจาก 4 สัปดาห์เป็น 6 สัปดาห์ เพื่อให้ยอดขายไปต่อได้หลังได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จนมีการล็อกดาวน์มีปิดช่องทางจำหน่าย กำลังซื้อลดลง มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยใช้สินค้าความงามน้อยลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น