วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ก.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
ยกแอพไทยชนะเท่าสากล
ดันแพลตฟอร์มของชาติ
นางมิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ประธานมูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์นโยบายสาธารณะการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยในงานเสวนาสถานการณ์การท่องเที่ยวรายไตรมาส เรื่องทิศทางการท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤติโควิด-19 ว่า รัฐบาลควรปรับปรุงแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ด้วยการพัฒนาขึ้นมาให้เป็นแพลตฟอร์มระดับชาติที่เป็นของคนไทยจริง ๆ โดยสามารถนำมาใช้กับเรื่องของการท่องเที่ยว หรือแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า รวมไปถึงการแจ้งข้อมูลประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้รับทราบ
'เอ็นพีเอส' เดินหน้ารุก ผนึกกัลฟ์ลุยโรงไฟฟ้า
รายงานข่าวบมจ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย (เอ็นพีเอส) เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าแผนลงทุนสร้างสถานีไฟฟ้าและขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มเติม เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตเส้นใย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 44 เมกะวัตต์ ในปี 64 และในปี 68 เพิ่มขึ้นจนครบ 150 เมกะวัตต์ โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท ในสวนอุตสาหกรรม 304 ตามแผนงานระยะยาวของลูกค้าในการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อป้อนตลาดส่งออก สำหรับแผนการร่วมลงทุนกับบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ขนาดกำลังการผลิต 560 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ในปี 68 และจะเปิดดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 70
จี้บาทอ่อน-พัฒนาพันธุ์ข้าว
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาข้าวไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการดูแลค่าเงินให้อ่อนค่าลงอยู่ในระดับ 32.50-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ข้าว 10 ปี ที่เน้นให้ความสำคัญกับพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่ตลาดต้องการ เช่น ข้าวพื้นนุ่ม และเร่งรับรองพันธุ์ข้าวเพื่อให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ อีกด้วย เพราะหากไม่ดำเนินการในอนาคตไทยจะถูกอินเดียเวียดนาม และจีนแย่งตลาดข้าวจนต้องหลุดอันดับรายใหญ่สุด 1 ใน 3 ของโลกได้
ฟันธงกำไรแบงก์ร่วงต่อ
หลังหมดมาตรการพักหนี้
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 63 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งบริษัทได้รวบรวมตัวเลขธนาคาร 8 แห่ง พบว่า มีกำไรสุทธิที่ 29,580 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ว่าจะมีกำไร 37,000 ล้านบาท ลดลง 34% หากเทียบกับไตรมาส 1 ปี 63 และลดลงไปถึง 41.6% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการตั้งสำรองหนี้เสียจำนวนสูงขึ้น
จีนเริ่มซื้ออสังหาฯ ไทยแล้ว
นายเกษมศักดิ์ สุนทโรทก ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน 7 ประเทศทั่วโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยเพิ่มขึ้น ผ่านเอเจนซี่และเครือข่ายในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวจีนซึ่งมองว่าไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยและน่าอยู่ เห็นได้จากยอดขายจองโครงการ สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 ที่บริษัทเปิดตัวให้ลูกค้าวีไอพีเข้าซื้อเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้มียอดขายจองแล้ว 700 ล้านบาท แบ่งเป็น คนไทย 500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของทั้งหมดเป้าหมายรวม และต่างชาติเข้าซื้อ 200 ล้านบาท คาดว่าในช่วงเดือน ต.ค. 63 นี้จะสามารถเข้ามาเซ็นสัญญาได้หากรัฐบาลเปิดประเทศ
กรมศุลฯขนรถหรูประมูล
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากร ได้ตัดสินใจที่จะเปิดประมูลรถของกลางอีกครั้งหลังหยุดไป 3 ปี โดยจะร่วมกับบริษัทสยามอินเตอร์การประมูล จำกัด จัดงานประมูลรถของกลาง ด้วยวิธีการประมูลด้วยวาจา และระบบประมูลออนไลน์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในวันที่ 8 ส.ค.63 ที่กรมศุลกากร คลองเตย กทม. โดยมีรถยนต์ รถหรูซูเปอร์คาร์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ รวมกว่า 200 คัน ซึ่งคาดว่าการประมูลครั้งนี้จะมีรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
'ทีเอ็มบี' ต่อยอดรูดปื๊ดช่วยลูกค้าบริหารต้นทุน
นางกนกพร จูฑา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) เปิดเผยว่า ทีเอ็มบีได้ต่อยอดบัตรเครดิตน้ำมัน หรือฟลีทการ์ด เพื่อช่วยบริหารจัดการต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ หรือรถทุกชนิดเพื่อการใช้งานธุรกิจ ซึ่งบริษัทสามารถให้พนักงานใช้บัตรเครดิตน้ำมันชำระเงินค่าน้ำมันแทนเงินสด ป้องกันการทุจริตได้ โดยยังเพิ่มบริการใหม่ด้วยระบบ ยูเอสเอสดี ที่สอบถามวงเงินคงเหลือแบบเรียลไทม์ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อรับข้อมูลวงเงินคงเหลือได้ทันที 24 ชั่วโมง
ธสน.ขาดทุน 1.4 พันล้าน ชี้สำรองหนี้เพิ่มรับไวรัส
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในครึ่งแรกปี 63 มีผลขาดทุนสุทธิ 1,416 ล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เนื่องจากต้องกันสำรองตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ ถึง 2,908 ล้านบาท และกันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 อีก 2,579 ล้านบาท รวมเป็น 5,487 ล้านบาท หากนับเฉพาะผลประกอบการธนาคารก่อนตั้งสำรอง ธนาคารยังมีกำไรอยู่ที่ 1,163 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น