วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 พ.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 
เงินเฟ้อหดตัวหวั่น 'เงินฝืด' คาดกนง.ลดดอกเบี้ย 0.25%
นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเงินฝืด หลังจากเงินเฟ้อทั่วไปหดตัวติดลบ 2 เดือนติดต่อกัน ซึ่งเกิดจากช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ แต่ได้ส่งผลดีต่อภาคครัวเรือนระยะสั้น เพราะจะทำให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าและอาหารในราคาถูกลง และได้สินค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น มีเงิน 100 บาท ซื้อของได้มากกว่าเดิม เป็นการลดภาระครัวเรือนได้ แต่มองว่าจะเป็นระยะสั้นเท่านั้น หากเกิดภาวะเงินฝืดต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจได้
แฉพันธบัตรปลอมเกลื่อน
หวั่นกระทบเชื่อมั่นพ.ร.ก.กู้เงิน
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพปลอมแปลงพันธบัตรรัฐบาลออกอาละวาด ด้วยการใช้กลอุบายสร้างความน่าเชื่อถือและใช้พันธบัตรปลอมหลอกลวงประชาชนให้เข้าไปลงทุน จนทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมากและสร้างความเสียหายไปแล้วหลายล้านบาท ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง และตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทำธุรกรรมพันธบัตรทุกครั้ง
หวั่นตปท.ฮุบหุ้นรร.ราคาถูก
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาสถานการณ์โรงแรมของผู้ประกอบการไทย ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทยอยปิดกิจการชั่วคราว บางแห่งรับสภาพภาระการขาดทุนไม่ไหว และเริ่มมีแนวคิดขายกิจการ ตนจึงได้เสนอตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาแก้ปัญหาโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ขึ้นมา มาจากหลายภาคส่วน เช่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นต้น เพราะกังวลว่า ผู้ประกอบการไทยบางรายอาจขายให้กับนักลงทุนต่างชาติในราคาต่ำ และนักลงทุนต่างชาติ อาจหันมาจ้างแรงงานประเทศตัวเอง มากกว่าคนไทย และเป็นเจ้าของที่ดินทำเลดีอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น